แกะรอย “ไฮโซลาว” เครือข่ายธุรกิจยาข้ามชาติ

เรียกเสียงฮือฮาได้อีกครั้ง เมื่อกำลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานไทยบุกจู่โจม ควบคุมตัวนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักธุรกิจชาวลาว กับพวกได้คาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่นั่งเครื่องเดินทางมาจากสนามบินภูเก็ต

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจท่องเที่ยว ก็ได้เข้าควบคุมตัวกลุ่มไฮโซชาวลาว เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ที่สนามบินอุดรธานีได้เช่นกัน ระหว่างเดินทางมาจากสนามบินภูเก็ต ทั้งหมดถูกนำตัวไปสอบสวนภายใน กก.ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จ.อุดรธานี พร้อมตามไปยึด อายัดรถโตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ สีดำ ทะเบียนนครเวียงจันทน์ ฝากจอดไว้ในบ้านของนักธุรกิจชาวอุดรธานีเชื้อสายเวียดนาม

เจ้าหน้าที่อีกทีมที่อุดรธานี เปิดปฏิบัติการเข้าจับกุมนายชุมพร พนมไพร อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 236/59 วันที่ 28 สิงหาคม 2559 ข้อหาสมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และตรวจยึดทรัพย์สินบ้านทรงไทย ที่บ้านศรีเมือง หมู่ 10 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ก่อนนำตัวเข้า กทม. โดยมีประวัติถูกจับขนกัญชาแห้ง 497 แท่ง เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2550 และพัวพันขนยาบ้าล็อตใหญ่ 3 ครั้งทางภาคใต้

การจับกุมครั้งนี้ นายไซซะนะ แก้วพิมพา ถูกกล่าวหาเป็นเครือข่ายสำคัญของ “อุสมาน สแลแมง” นักค้ายาเสพติดข้ามชาติหมายเลข 1 ที่ทางการไทยต้องการตัว ส่วนนายชุมพร พนมไพร ผู้ทำหน้าที่ส่งสินค้าและกลุ่มไฮโซ 4 คน ถูกควบคุมตัวเข้า กทม. อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในขณะนี้

Advertisement

เป็นอุสมาน สแลแมง หรือ “มัง” หัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งส่งออกไปต่างประเทศ เป็นเครือข่ายใหญ่ มีเงินหมุนเวียนมหาศาล มีฐานที่มั่นใหญ่อยู่ใน จ.นราธิวาส มีค่าหัวนำจับคดียาเสพติด 2,000,000 บาท

ต่อมาได้มาใช้พื้นที่ จ.อุดรธานี เป็นบ้านของนางสุภาพร คำศรีระภาพ หรือตุ๊กตา มีค่าหัวนำจับเช่นกันในคดียาเสพติด 300,000 บาท เป็นฐานข้ามไปยังแหล่งผลิตประเทศเพื่อนบ้าน โดยสร้างภาพธุรกิจบังหน้าเพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจว่าทำมาค้าขายวัวควายเป็นล่ำเป็นสันจนร่ำรวย

ย้อนไปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2548 เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจับกุมยาบ้า 270,000 เม็ด ซุกมาในรถที่ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จับกุมผู้ต้องหาได้รวม 4 คน จากการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่พบผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการคือ อุสมานและภรรยา

คดีดังกล่าวเหมือนกับการกระชากหน้ากากเปิดตัวจริงของนายอุสมาน ทำให้สองสามีภรรยาต้องหนีหายจากประเทศไทยไปปรากฏตัวอยู่ประเทศเพื่อนบ้านแทน

เจ้าหน้าที่จึงได้เพียงตามยึดทรัพย์สิน ทั้งรถยนต์ บ้านพัก อพาร์ตเมนต์กำลังก่อสร้าง และเงินสดในพื้นที่ จ.อุดรธานี และ กทม.จำนวนมาก

หลังเวลาผ่านมาเกือบ 4 ปี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2552 อุสมาน สแลแมง สร้างความฮือฮารอบที่ 2 เมื่อดีเอสไอสืบทราบมาตรวจสอบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ศส 9187 กรุงเทพมหานคร ยึดมาจากบ้านนายอุสมานที่สะพานสูง กทม. แล้วนำมาใช้งานที่ ภ.จว.อุดรธานี พบเงินสดซุกซ่อนในประตูหลังซ้าย-ขวา 9,998,000 บาท และพบว่าเงินเบิกมาจากธนาคารใน จ.นราธิวาส

ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 เจ้าหน้าที่จับกุมยาบ้าเครือข่ายอุสมานอีกครั้ง 102,000 เม็ด ขยายผลจับนายฮาซัน อินยูร จากภาคใต้มาเปิดธุรกิจร้านอาหารและเสื้อผ้าสำเร็จรูปบังหน้า ตามยึดทรัพย์ได้ทองรูปพรรณน้ำหนัก 65 บาท รถยนต์ 10 คัน จักรยานยนต์ 7 คัน บ้าน ที่ดิน และเงินสด 4.7 ล้านบาท ว่ากันว่ามีนักการเมืองท้องถิ่นกำลังจะเล่นการเมืองระดับประเทศ อาจมีส่วนรู้เห็นและได้รับการสนับสนุน แต่หลักฐานยังสาวไม่ถึงไม่เพียงพอดำเนินคดีได้

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การจับยาเสพติดรายใหญ่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในพื้นที่อีสานตอนบน ส่วนใหญ่จะจับได้ในกลุ่มของรายกลางๆ ส่วนรายใหญ่กลับจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้แทน

ฝ่ายปราบปรามจึงเชื่อว่าการกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดครั้งใหญ่ครั้งนี้น่าจะเป็นเครือข่ายของอุสมาน สแลแมง เข้ามาฝังตัวในพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อรวบรวมสินค้าจากกองทัพมดจัดส่งไปยังเป้าหมายตามใบสั่ง

เป็นใบสั่งมาจาก “อุสมาน สแลแมง” ส่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ขณะที่ตัวเองและภรรยาน่าจะยังคงกบดานซ่อนตัวเสพสุขอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image