| ที่มา | คอลัมน์ โชว์รูมประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เก่าไปใหม่มา ล่าสุด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ปลุกตลาดรถยนต์กลุ่มอีโค-คาร์ อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว นิสสัน โน้ต คอมแพคแฮตช์แบค มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ภายใต้แนวคิดนวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะ (Nissan Intelligent Mobility) ครั้งแรกในรถกลุ่มอีโค-คาร์
หลังจากนิสสันเป็นผู้นำตลาดรถยนต์อีโค-คาร์ มียอดขายสะสมนับแต่เปิดตัวนิสสัน มาร์ช ในปี 2553 และเปิดตัวนิสสัน อัลเมรา ในปี 2554 รวมกว่า 260,000 คัน ต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดอีโค-คาร์ จึงภูมิใจนำเสนอรถยนต์นิสสัน โน้ต ใหม่ อีโค-คาร์ รุ่นที่ 3
นิสสัน โน้ต ใหม่ถือเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น มียอดขายอันดับหนึ่งหลังเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยยอดขายกว่า 16,000 คัน ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด ไดนามิก แอนด์ อินโนเวชั่น คอมแพค (Dynamic& Innovative Compact) หรือรถยนต์คอมแพคคล่องตัวและนวัตกรรมล้ำสมัย
บรรจุเทคโนโลยี ระบบอินเทลลิเจนท์ ฟอร์เวิร์ด คอลลิชั่น วอร์นนิ่ง (Intelligent Forward Collision Warning) ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ เซ็นเซอร์จากกล้องด้านหน้ารถสามารถตรวจจับบุคคลและยานยนต์บริเวณหน้ารถ แล้วส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด
ระบบอินเทลลิเจนท์ อีเมอร์เจนซี่ เบรกกิ้ง (Intelligent Emergency Braking) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ โดยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วด้วยกล้องด้านหน้า แล้วช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถ บรรเทาอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดจากการชนยานยนต์ และคน
ครั้งแรกในรถอีโค-คาร์ กับระบบอินเทลลิเจนท์ อะราวด์ วิว มอนิเตอร์ (Intelligent Around View Monitor – AVM)กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง AVM มองเห็นได้ทุกจุดรอบคัน ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน MOD (Moving Object Detection) แสดงผลที่กระจกมองหลังให้ความปลอดภัย
และครั้งแรกกับระบบเลน ดีพาร์ทเจอร์ วอร์นนิ่ง (Lane Departure Warning – LDW) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง ระบบจะเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงและสัญญาณไฟที่บริเวณหน้าปัดเมื่อรถออกนอกช่องทางโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะทำงานที่ความเร็วมากกว่า 70 กม./ชม.
เครื่องยนต์เบนซิน HR12DE 3 สูบ แถวเรียง DOHC (Double Overhead Camshaft) 12 วาล์ว CVTC (Continuously Variable-valve Timing Control) ขนาด 1,198 ซีซี มาพร้อมกับหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ มัลติพอยต์ (ECCS) กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที และยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร เทียบเท่ามาตรฐานไอเสีย ยูโร 4
ระบบเกียร์ใหม่แบบเอ็กซ์ทรอนิก ซีวีที (XTRONIC CVT) มาพร้อม ดี-สเต็ป โลจิก (D-Step Logic) ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง
ภายในกว้างขวาง ตกแต่งภายในออกแบบด้วยโทนสีดำและตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน ตกแต่งคอนโซลกลางด้วยสีเปียโนแบล๊ก เบาะผ้าสีดำตกแต่งขอบด้วยสีเบจ เบาะด้านผู้ขับขี่สามารถปรับสูง-ต่ำ เบาะหลัง ปรับแยกแบบ 60:40 พวงมาลัยรูปทรงสปอร์ต แบบ ดี-เชป (D-Shape) ปรับสูง-ต่ำได้ เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมระบบการทำงานของเครื่องเสียงและระบบโทรศัพท์ได้ด้วยนิ้วสัมผัส
นิสสัน โน้ต ใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย อาทิ โครงสร้างตัวถังนิรภัยเป็นแบบโซน บอดี้ คอนเซ็ปต์ (Zone Body Concept) มีความแข็งแรง ให้ความยืดหยุ่น และกระจายแรงกระแทก ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า แบบ 3 จุด แบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ปรับสูง-ต่ำได้ ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 3 จุด ครบทั้ง 3 ตำแหน่ง เพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารเด็กด้วยจุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX และระบบป้องกันเด็กเปิดประตูจากในรถ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบแอลอีดี ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ลดปัญหารถไหลเมื่อออกตัว
นิสสัน โน้ต ใหม่ มี 2 รุ่นย่อย คือ 1.2V และ 1.2 VL โดยมีราคาเริ่มต้น 568,000 บาท ในรุ่น 1.2V CVT และ 640,000 บาท สำหรับรุ่น 1.2 VL CVT มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง เรเดียน เรด สีชมพู สวีท พิงค์ สีม่วง พลัม สีขาว ไวท์ เพิร์ล สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ และสีดำ แบล๊ก สตาร์ โดยจัดสิทธิพิเศษฉลองเปิดตัวให้ลูกค้า 2,017 คนแรก พร้อมส่งมอบรถได้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป
