นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะยกเลิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) จะไม่กระทบต่อไทย เพราะไทยยังไม่ได้เข้าเป็นสมาชิก แต่สิ่งที่ต้องเร่งจากนี้คือผลักดันให้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในภูมิภาค (อาร์เซพ) ระหว่างอาเซียนและ 6 ประเทศคู่เจรจา คือ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ให้บรรลุภายในปีนี้
ในด้านการลงทุน จากการที่ได้พูดคุยกับนักธุรกิจสหรัฐฯ ในการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (เวิล์ด อีโคโนมิค ฟอร์รั่ม) ประจำปี 59 ที่กรุงดาวอส สหพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงนโยบายที่สหรัฐฯจะถอนการลงทุนภาคเอกชนกลับ นั้น คงเป็นไปไม่ได้ และต่างก็ยังเชื่อมั่น พร้อมเดินหน้าลงทุนในไทยและอาเซียนต่อ เพราะสหรัฐฯยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง มีสินค้าบางประเภทที่ผลิตเองไม่ได้ จึงยังยืนยันที่จะลงทุนต่อ อาทิ กลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนั้น ไทยก็ยังมีกรอบความตกลงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-สหรัฐฯ (ทิปฟ่า) มีสัญญาทางไมตรีและการค้าระหว่างประเทศไทย-สหรัฐฯ เป็นกรอบเจรจาการค้าอยู่ด้วย จึงทำให้ไม่กังวลว่า หากสหรัฐฯจะออกมาตรการตอบโต้ทางการค้ามา เพราะการใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า เช่น ขึ้นภาษีนำเข้า ก็มีข้อจำกัด อีกทั้งปัจจุบัน มีองค์การการค้าโลก ที่กำหนดกติกาการค้าระหว่างการประเทศ เพื่อดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ในโลกอยู่แล้ว
“ นโยบายที่จะปกป้องเศรษฐกิจในประเทศ เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้น ก็เป็นผลดีที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้น ทำให้ไทยส่งออกได้มากขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันไทยค้าขายกับสหรัฐฯ เพียง 10% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด และปีนี้ ยังคงตั้งเป้าหมายการส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้น 3% เท่าเดิม ซึ่งผู้ประกอบการของไทยก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ และติดตามนโยบายของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด “
