| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะได้รับมอบหมายให้ดูแลแก้ปัญหาทุจริตในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีสกสค.ยื่นโนติส แจ้งให้สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง คืนเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย ให้กับสกสค. เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการอนุมัติ ปิดบัญชีและเบิกถอนเงินของสกสค.ที่ฝากไว้กับสถาบันการเงินดังกล่าวอย่างไม่ถูกต้อง ว่า สถาบันการเงินได้ส่งหนังสือถึงสกสค. เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า การดำเนินการอนุมัติเบิกถอนเงิน และปิดบัญชีเป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้นตนจึงส่งเรื่องดังกล่าวให้ฝ่ายกฎหมายของศธ. ดูรายละเอียด ข้อกฎหมายต่าง ๆ ก่อนเสนอให้พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณาเพื่อฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกเงินคืนต่อไป
“ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมสถาบันการเงินจึงตอบกลับมาแบบนั้น ทั้งที่หลักฐานต่างๆ ชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการอนุมัติเบิกถอนเงินและปิดบัญชี ไม่ถูกต้อง มีหนังสือคำสั่งให้เบิกถอนเงินจำนวน 2 ฉบับ โดยฉบับแรก เลขาธิการ สกสค.ในช่วงนั้น ได้ลงนามในหนังสือให้เบิกถอนเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท แต่ในหนังสือไม่ได้ระบุว่าโอนเงินให้ใคร สถาบันการเงินจึงได้สอบถามมายังสกสค. ซึ่งรองเลขาธิการ สกสค.คนหนึ่งในขณะนั้น ได้ระบุให้โอนเงินให้บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยเซ็นกำกับเองในหนังสือฉบับที่ 2 ซึ่งเป็นคนละวันกับวันที่ออกหนังสือฉบับแรก แต่เลขที่หนังสือและวันที่ ที่ส่งกลับไปยังสถาบันการเงินดังกล่าว กลับเป็นวันเดียวกันกับฉบับแรก จึงถือว่าไม่ถูกต้องชัดเจนอยู่แล้ว ที่สำคัญรองเลขาธิการสกสค.ก็ไม่มีอำนาจในการเซ็นเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าวด้วย ซึ่งคำวินิจฉัยทั้งหมด ศธ.ไม่ได้สรุปเอง แต่เป็นการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมสถาบันการเงินจึงไม่นำคำวินิจฉัยดังกล่าว มาประกอบการพิจารณา เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็ควรรับสภาพ และออกมารับผิดชอบ” นายธเนศพล กล่าว
นายธเนศพล กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุผลที่ต้องส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดก่อน แทนที่จะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการศธ. พิจารณาฟ้องแพ่งทันทีนั้น เพราะอยากให้มีความชัดเจน ไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาด เงินจำนวนนี้ เป็นเงินของครู อย่างไรก็ต้องเรียกคืนมาให้ได้
