วันที่ 23 มกราคม 2560 เมื่อเวลา 14.00 น. ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่ 888 หมู่บ้านทั่วจังหวัดพิจิตร และ 12 อำเภอ กว่า 2 พันคน ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อยื่นหนังสือ ต่อนายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เพื่อส่งต่อไปยัง พล.อ. ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้อนุมัติงบประมาณโครงการพัฒนาบึงสีไฟ หลังจากที่คนไม่หวังดีปล่อยข่าวทำให้งบประมาณพัฒนาบึงสีไฟตกไป
จากนั้นนายวีระศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้รับมอบหนังสือจากชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นตัวแทนจากชาวบ้าน 888 หมู่บ้าน แสดงเจตนารมณ์ไม่คัดค้านการพัฒนาบึงสีไฟตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ตามแนวพระราชดำริฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีสื่อบางฉบับได้เสนอข่าว จนเกิดความคลาดเคลื่อน และเข้าใจผิดคิดว่าคนพิจิตรออกมาต่อต้านโครงการพัฒนาบึงสีไฟ ทำให้งบประมาณในการพัฒนาบึงสีไฟยังไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งหลังจากนั้นนายวีระศักดิ์ จะเตรียมส่งหนังสือไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อทบทวนงบประมาณการพัฒนาบึงสีไฟต่อไป
นายปกรณ์ แพพ่วง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เพื่อส่งไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อทบทวนงบประมาณการพัฒนาบึงสีไฟ หลังจากที่งบประมาณดังกล่าถูกระงับไป ซึ่งวันนี้ชาวพิจิตรได้ลงรายชื่อส่งไปยังนายกรัฐมนตรี ว่า ชาวพิจิตรต้องการเห็นการพัฒนาบึงสีไฟ เพราะบึงสีไฟขาดการดูแลและอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมมาก ซึ่งบึงสีไฟ เป็นบึงขนาดใหญ่อันดับ 3 ของ ประเทศ แต่ขาดการดูแล จนทำให้สภาพของระบบนิเวศน์เสียไป ตรงนี้อยากให้ทางรัฐบาลทบทวนงบประมาณดังกล่าวตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรเคยของงบประมาณในการพัฒนาบึงสีไฟ กรณีที่ถูกตัดงบประมาณผมมองว่า คนเพียงแค่ 2-3 คนทำให้บึงสีไฟถูกตัดงบพัฒนาบึงสีไฟถึง 837 ล้าน ได้อย่างไร ทำไมถามคนพิจิตร ว่าเขาต้องการอะไร อยากถามว่าคนที่มันคัดค้านนั้น มันใช่คนพิจิตรหรือไม่ ที่ทำแบบนี้ คนพิจิตรต้องการให้บ้านเมืองเกิดความเจริญ ไม่ใช่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำแบบนี้
“ที่ผ่านมา บึงสีไฟย่ำแย่มาก แต่หลังจากที่ผู้ว่าราชการคนใหม่เข้ามา และของบประมาณในการพัฒนาบึงสีไฟ ทำให้คนพิจิตรเกิดความหวัง ว่าบึงสีไฟจะฟื้นกลับคืนมา เพราะโครงการพัฒนาบึงสีไฟของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรนั้น เป็นโครงการในพระราชดำริฯด้วย ที่ผ่านมามีสื่อบางสื่อออกข่าวในทางลบ ซึ่งจริงๆแล้ว คนพิจิตรไม่เคยคัดค้านโครงการพัฒนาบึงสีไฟ คนพิจิตรต้องการพัฒนาเมือง พัฒนาบึงสีไฟซึ่งเป็นลมหายใจของชาวจังหวัดพิจิตร คนพิจิตรไม่เคยทะเลาะกันเรื่องโครงการพัฒนาบึงสีไฟ ผมในฐานะคนพิจิตรคนหนึ่ง ได้เตรียมหาแนวทางในการปฏิบัติต่อในในอนาคตครับ ซึ่งหวังว่ารัฐบาลคงจะเห็นชอบกับโครงการพัฒนาบึงสีไฟ” นายปกรณ์ กล่าว
ด้านนายวีระศักดิ์ กล่าวว่า งบประมาณที่เราขอไป เพื่อพัฒนาบึงสีไฟนั้น เป็นงบประมาณตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนของกลุ่มจังหวัด ซึ่งเราไม่ได้ของบประมาณในเรื่องบึงสีไฟเพียงอย่างเดียว ยังขอไปในเรื่องถนนหนทาง ทั้งในเรื่องเกี่ยวกับระบบน้ำ การพัฒนาการปลูกข้าว ซึ่งมีหลายอย่าง ซึ่งคิดว่าผลการพิจารณาน่าจะได้รู้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนบึงสีไฟ ความจริงได้รับการผ่านกลั่นกรองพิจารณาจากคณะกรรมการการกลั่นกรองไปแล้ว แต่ก็เกิดข้อขัดแย้งอย่างที่เราทราบกันดีว่ามีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกัน ซึ่งตอนนี้ทุกคนต่างเข้าใจร่วมกันแล้ว ผมเองในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ทำหนังสือชี้แจงไปทางส่วนกลางไปแล้วว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งเราได้ประสานไปแล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการก็จะทราบผลในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน
“ที่ผ่านมาแม้ว่าเราจะมีงบประมาณก็ตาม แต่เราก็สามารถพัฒนาบึงสีไฟได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่หากงบประมาณเข้ามา ก็จะทำให้การพัฒนาเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งยังไงๆเราก็ต้องพัฒนาต่อ เพราะตอนนี้บึงสีไฟดีขึ้นกว่าเก่านิดนึง ผมในฐานะผู้ว่ารากชการจังหวัดพิจิตร มีหน้าที่รับผิดชอบตรงนี้โดยตรง จะไม่ปล่อยให้บึงสีไฟ ซึ่งเป็นแหล่งชุ่มน้ำธรรมชาติเกิดความเสียหายอย่างแน่นอน” นายวีระศักดิ์ กล่าว
