พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโอลิมปิคฯ ที่ห้องประชุมบ้านอัมพวัน เมื่อวันที่ 23 มกราคม
ที่ประชุมแจ้งกำหนดประชุมคณะกรรมการบริการโอลิมปิคไทยครั้งสุดท้ายวันที่ 22 มีนาคม ที่บ้านอัมพวัน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดประชุมสมัชชาใหญ่ โอลิมปิคไทย ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน วาระสำคัญคือ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารโอลิมปิคไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ ชุดใหม่
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่ประธานโอลิมปิคไทยมีการเปลี่ยนแปลง ขอให้คณะกรรมการบริหารโอลิมปิคไทยชุดใหม่มีการประชุมวันที่ 5 เมษายน เพื่อให้มีเวลาในการพิจารณา โดยตนเองจะไม่ขอรับตำแหน่ง และยืนยันว่า ชื่อที่ปรากฏเป็นข่าวขณะนี้คือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความเหมาะสม จะต้องดูด้วยว่า “บิ๊กป้อม” ในฐานะนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯจะได้รับการเสนอชื่อหรือไม่
ที่ประชุมหารือกันอย่างกว้างขวาง กรณีที่ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (สปอร์ตแอคคอร์ด) ปี 2018 ซึ่งจะมีผู้แทนองค์กรกีฬา ร่วมกับสหพันธ์กีฬานานาชาติ เข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดทิศทางของวงการกีฬาระดับโลก กว่า 2,000 คน ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งเห็นว่าเป็นงบประมาณมากเกินไปโดยต้องเสียเงินกินเปล่าในการได้สิทธิเป็นเจ้าภาพถึง 40 ล้านบาท จึงมีมติไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ เพราะไม่เกิดประโยชน์อันใด และจะเสนอไปยังนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอยับยั้งต่อไป
สำหรับกรณีที่สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) เลือกไทย จัดตั้งสำนักงานสาขาในภูมิภาคอาเซียนนั้น พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการ กล่าวว่า ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินการดังกล่าว เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอย่างใด
