นครศรีฯขยะ-น้ำเสียล้นเมือง กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง หลังน้ำท่วมหนักเข้าไปอีก ประชาชนร้องเรียนหวั่นโรคระบาด

ภายหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลกระทบกับภูเขาขยะขนาด 1 ล้านตัน ซึ่งกองอยู่ด้านหลังพื้นที่สวนสาธารณะทุ่งท่าลาด โดยมีน้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง แพร่กระจายลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ จนก่อให้เกิดการร้องเรียน เรื่องของการบริหารจัดการขยะที่เริ่มแพร่กระจายออกไปเป็นพื้นที่กว้างมากขึ้น เพราะเกรงจะเกิดโรคระบาดตามมานั้น

วันที่ 24 มกราคม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ ว่ารับทราบเรื่องนี้แล้ว ซึ่งทางรัฐมนตรี และปลัด ทส.ได้สั่งการให้เข้าไปฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน โดยก่อนหน้านี้ คพ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเก็บข้อมูลรายละเอียดปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้ว ได้รับแจ้งว่าปัญหาเรื่องขยะในพื้นที่แม้จะมีจำนวนมหาศาลจริงๆ คือเป็นภูเขาขยะหลายกอง มีไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน แต่ในแง่การเข้าไปจัดการตัวขยะจริงๆ นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย มีบริษัทเอกชนหลายแห่งมีความพร้อม และสนใจที่จะเข้าไปจัดการ แต่เมื่อเข้าไปแล้วก็ต้องออกมา เพราะในพื้นที่มีปัญหาภายในกันเอง โดยเฉพาะเรื่องการเมืองท้องถิ่น ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จเสียที

16251172_10154563763363884_816732642_o

16325488_10154563763583884_1212340729_o

Advertisement

“แต่สิ่งที่ คพ.เห็นในเวลานี้ก็คือ ในพื้นที่มีปัญหาแน่ๆ ว่าด้วยเรื่องมลพิษที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชน เป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว เพราะปริมาณขยะมีจำนวนมหาศาลหากไม่จัดการก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่มีขยะท่วมเมือง ไม่เฉพาะแต่ภูเขาขยะจากบริเวณนี้เท่านั้น ยังมีขยะที่เกิดขึ้นภายหลังน้ำท่วมอีกมหาศาลเหมือนกัน ซึ่ง คพ.ได้เข้าไปสำรวจ พบว่าภายหลังจากเกิดน้ำท่วมนั้น เทศบาลนครศรีธรรมราชมีขยะเกิดขึ้นถึง 10,615 ตัน แยกเป็นพลาสติกและขวดพลาสติก 15% กระดาษลัง และกระดาษสมุด 10% เศษผ้าและที่นอน 20% เศษไม้และเฟอร์นิเฟอร์ 30% เศษอาหารและอื่นๆ อีก 25%” นายจตุพรกล่าว

16326466_10154563763128884_1601924176_o

คพ.จะสามารถเข้าไปจัดการขั้นเด็ดขาดเรื่องการจัดการขยะที่ จ.นครศรีธรรมราชหรือไม่ เพราะปัญหายืดเยื้อมานานมากแล้ว และสามารถใช้กฏหมายมาตรา 157 กับผู้บริหารทั้งข้าราชการ และนักการเมือง และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ อธิบดี คพ.กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว การแก้ปัญหาเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของท้องถิ่น ซึ่งพบว่าที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำเต็มที่นัก เพราะหากทำเต็มที่จริงจัง ปัญหาคงไม่ยืดเยื้อแก้ยากมาจนถึงวันนี้ การแก้ปัญหาจะพิจารณาจากทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้ข้อมูลมาเกือบรอบด้านแล้ว จะประชุมสรุปเพื่อกำหนดมาตรการแก้ปัญหาเร็วที่สุด

Advertisement

“ในปี 2560 นี้รัฐบาลมีนโยบายให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะต้องลดปริมาณขยะ จากที่มีอยู่เดิมในปี 2559 ลงไม่ต่ำกว่า 5% โดยทุกจังหวัดจะต้องปฏิบัติให้ได้ จะไปสรุปผลกันในตอนปลายปี ว่าจังหวัดไหนทำได้ หรือไม่ได้บ้าง” อธิบดี คพ.กล่าว และว่า ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาช่วงหลังน้ำลด คพ.จะร่วมสำรวจสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยว่าได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงใด และทำการฟื้นฟูและปรับปรุง พร้อมเร่งจัดเก็บขยะมูลฝอยให้หมดจากพื้นที่ชุมชนโดยเร็ว และจัดหาพื้นที่สำหรับกองเก็บขยะชิ้นใหญ่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และแยกซากกิ่งไม้ เป็นต้น และร่วมกันทำความสะอาดบริเวณโดยรอบชุมชน กรณีที่พบว่ามีคราบสกปรก เช่น เชื้อรา อาจต้องใช้น้ำยาคลอรีนเจือจางเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ซึ่ง คพ.จะลงพื้นที่ร่วมจัดการขยะในพื้นที่จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image