วันที่ 26 มกราคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ นายอำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า อ.บ้านคาได้มีการปลูกสับปะรดสายพันธุ์ “ หอมทองเมืองราช ” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ของจังหวัดราชบุรี หลังมีสมาชิกเกษตรกรเริ่มนำหน่อมาปลูกแล้วประมาณ 4-5 ราย จะเน้นปลูกเพื่อขยายพันธุ์เป็นหลักก่อน จุดเด่นของสับปะรดสายพันธุ์นั้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ หอมหวานไม่มาก ไม่กัดลิ้น ที่สำคัญเก็บได้นานประมาณกว่า 10วัน จากปกติสับปะรดในพื้นที่ที่ปลูกกันก็จะเก็บไว้ได้ประมาณ 4-5 วันก็จะเริ่มเน่าแล้ว โดยพื้นที่อำเภอบ้านคาที่มีการปลูกสับปะรดกันอยู่ประมาณกว่า 7 หมื่นไร่ ส่วนพันธุ์ใหม่เพิ่งริเริ่มทดลองกันปลูกอยู่ประมาณหลักร้อยไร่ เนื่องจากหน่อพันธุ์ที่ใช้ปลูกมีราคาแพง ราคาหน่อละประมาณ 30 บาท ทำให้เกษตรกรที่ปลูกแล้วจะนำหน่อไปขยายพันธุ์ให้กับสมาชิกก่อนที่จะคิดด้านการวางจำหน่าย
นายเชาว์ การสมทบ อายุ 67 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 บ้านหนองแดง ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เกษตรกรกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ปฏิรูปที่ดิน บ้านโป่งกระทิง จำกัด กล่าวว่า สับปะรดสายพันธุ์ใหม่นี้เรียกว่าส่ายพันธุ์ MD2 แต่หากจะเรียกเป็นสายพันธุ์ไทยที่ได้ตั้งชื่อกันใหม่แล้วจะเรียกว่า พันธุ์“หอมทองเมืองราช” เป็นสายพันธุ์ใหม่ของพื้นที่อำเภอบ้านคา เดิมพื้นที่เคยปลูกสายพันธุ์ ปัตตาเวีย สายพันธุ์ภูเก็ต และสายพันธุ์ฉีกตา ส่วนสายพันธุ์หอมทองเมืองราชมีเกษตรกรเริ่มปลูกแล้วคาดว่าไม่เกิน 3 หมื่นหน่อ เนื่องจากราคาหน่อพันธุ์ค่อนข้างแพง พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 7,000 หน่อ ขณะที่ข้อแตกต่างของสับปะรดสายพันธุ์หอมทองเมืองราชกับสายพันธุ์ปัตตาเวียนี้ คือ มีความหอม เนื้อจะมีสีเหลืองตลอดทั้งลูก และยังเก็บรักษาไว้ได้คงทนนานกว่าพันธุ์อื่นๆ ที่สำคัญกินแล้วไม่กัดลิ้น เวลากินน้ำหลังจากกินสับปะรดแล้วจะรู้สึกปกติไม่เฝื่อนคอ
“สำหรับการตั้งชื่อว่า “ หอมทองเมืองราช ” นั้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะว่าเป็นสหกรณ์ในโครงการตามพระราชประสงค์ของพระองค์ท่าน เกษตรกรทุกคนได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อเกษตรกรไทยทุกคน จึงได้ร่วมคิดหาชื่อที่เป็นมงคลจนมาได้ชื่อว่า “หอมทองเมืองราช” หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือ “หอมทองราชา” ซึ่งหลังได้เริ่มปลูกมาได้ประมาณปีเศษแล้ว อย่างที่ออกหัวออกผลผลิตให้แล้วขณะนี้และยังมีรุ่นน้องๆซึ่งต้องใช้เวลาปลูกถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 11 เดือน จึงจะเก็บผลผลิตได้ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาเร็วกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย ส่วนที่เก็บได้ชุดแรกนั้นยังไม่ได้มีการวางขายที่อื่น เนื่องจากยังมีผลผลิตน้อยมีการบังคับออกผลได้ประมาณ 200 หัวเท่านั้น หลังจากได้ขนาดจึงตัดนำไปปอกเลี้ยง เพื่อแจกให้กับประชาชนที่เดินทางไปกราบพระบรมศพที่กรุงเทพมหานคร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้แจกผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและแจกเพื่อนสมาชิกให้ชิมรับประทาน” นายเชาว์ กล่าว
ทั้งนี้ พื้นที่อำเภอบ้านคามีการปลูกสับปะรดกันเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีสภาพดินดีและแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ทำให้สับปะรดที่นี่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ในตัวไม่เหมือนใคร หากจะนำหน่อพันธุ์ไปปลูกยังพื้นที่แหล่งอื่น มีความคิดว่าคงจะมีรสชาติไม่เหมือนที่นี่ เนื่องจากแร่ธาตุในดินแต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน หากปรับปรุงสภาพดินให้มีลักษณะคล้ายกันก็จะทำให้รสชาติเปลี่ยนไป เนื่องจากเคยมีเกษตรกรทดลองการปลูกแล้วนำปุ๋ยมาใส่บำรุงแล้ว ทำให้รสชาติของสับปะรดเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม คาดว่าหลังเกษตรกรปลูกกันค่อนข้างเยอะและเป็นที่นิยมของลูกค้าแล้ว ราคาส่งน่าจะอยู่ที่ประมาณไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 30 บาท ในการเตรียมการส่งตลาดทั้งในและต่างประเทศ เช่น ศรีลังกา ญี่ปุ่น ในอนาคตอันใกล้นี้
