แห่เยี่ยมเด็กวัย 7 ขวบ เหยื่อลูกหลงลอบบึ้ม อ.กะพ้อ กลุ่มสตรีติงองค์กรสิทธิฯยังนิ่งเฉย

(19 ก.พ.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มบุคคลจากหลายหน่วยงานต่างทยอยเดินทางเยี่ยมให้กำลังใจ ด.ช.นิอาดัม ซาโลง อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.โรงเรียนบ้านกะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ภายหลังทราบข่าวถูกลูกหลงจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด จนบาดเจ็บและแพทย์ต้องผ่าตัดดามเหล็กขาที่หักทั้งสองข้าง และยังรอผาตัดสะเก็ดระเบิดบริเวณคอออก จนบิดาปลาบปลื้มน้ำตาไหลจากการได้รับความห่วงใยจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ที่โรงพยาบาลจังหวัดปัตตานี เมื่อ 19 ก.พ.

ด้าน น.ส.คอลีเยาะ หะหลี แกนนำสตรีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ ด.ช.นิอาดัม พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงจุดยืนให้รู้ว่าพวกเราไม่เห็นด้วยกับการทำร้ายเด็ก สตรีและผู้สูงอายุ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เป็นเด็กและสตรี จำนวน 3 รายนั้น เขาจะต้องได้ใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขในแต่ละวัน ไม่ใช่ต้องมาตกเป็นเหยื่อรับกรรมและรับบาปกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ พวกเขาล้วนไม่ใช่ผู้มีส่วนในเหตุการณ์ความรุนแรง เขาจึงควรได้อยู่ในสถานที่ของเขา ดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ไม่ใช่ต้องให้มาตกอยู่ในสภาพการณ์แบบนี้ และในฐานะที่เป็นบุคคลหนึ่งทำงานด้านสิทธิเด็กและสตรีด้วย  กับกลุ่มองค์กรภาคส่วนต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ก็ควรจะออกมาให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน และจะต้องแสดงออกถึงความจริงจังจริงใจออกมาด้วย 

อย่างเด็กและสตรีที่ได้รับผลกระทบตรงนี้ จริงแล้วแต่ละกลุ่มควรจะออกมาแสดงจุดยืนของตนเองด้วยว่ารู้สึกอย่างไร ไม่เห็นด้วยอย่างไร หรือคิดเห็นด้วยถึงได้เงียบกันไปเสียหมด ตรงนี้สิทธิความเป็นมนุษย์มันมีสิทธิเท่าเทียมกัน หรือไม่รู้ว่าในแต่ละพื้นที่นั้นเขาตีความหมายของคำว่ามนุษยชนที่แตกต่างกัน หรือตีค่าของแต่ละคนกันแบบไหน อย่างไรก็ตามในส่วนของกลุ่มเรานั้นคิดว่าเด็ก สตรี หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ ทั้งที่เป็นไทยพุทธ ไทยมุสลิม ทุกคนเราต่างให้คุณค่าเท่าเทียมกัน ทุกคนล้วนจะต้องอยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินไทยนี้ร่วมกัน อย่างคนที่อยู่กันแบบปกติสุขได้ จึงเห็นควรและเห็นด้วยที่อยากให้ทุกกลุ่มได้ออกมาร่วมแสดงออก แสดงถึงความห่วงใยที่มันกำลังเกิดขึ้นด้วย อย่างน้อยอยากขอให้ออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบบ้าง ว่าผลที่เกิดขึ้นกับเด็กนั้นมีผลเสียอย่างไร ผู้ปกครองเองก็ต้องมาคอยดูแลไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ โดยสังคมส่วนรวมไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนๆ จริงๆ แล้วควรออกมาให้ความสำคัญกับสิทธิเด็กและสตรีให้มากกว่านี้ เหมือนหลายๆ กลุ่มที่พอมีเหตุการณ์อะไรก็ต่างออกมาประณามและรณรงค์ จนบางครั้งเกิดความน้อยใจที่กลุ่มองค์กรหลายกลุ่มเลือกที่จะปฏิบัติ จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่แต่ละกลุ่มองค์กรในพื้นที่ควรจะต้องทบทวนบทบาทตัวเองแล้วหันมาสร้างสันติสุขอย่างจริงจัง

ขณะที่โรงยิมส์โรงเรียนวังกะพ้อพิทยาคม อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา ครูและนักเรียนในพื้นที่กว่า 500 คนจัดกิจกรรมร่วมแสดงพลังต่อต้านการใช้ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการก่อเหตุรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ ทำให้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน และสื่อถึงความไร้มนุษยธรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิด 2 จุดในพื้นที่อำเภอกะพ้อ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 8 ราย โดย 2 รายที่ได้รับบาดเจ็บเป็นนักเรียน คือ ด.ญ.นิฮามีเนาะ ซาโลง อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 มีบาดแผลที่แขน และ ด.ช.นิอาดัม ซาโลง อายุ 7 ปี ชั้น ป.2 ขาขวาหัก ทั้งสองเรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านกะรุบี ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวชาวบ้านในพื้นที่รับไม่ได้และถือเป็นเรื่องที่ผิดต่อหลักการศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรง

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image