‘บิ๊กตู่’ชี้ รถไฟเร็วสูงยังไม่จำเป็น ใช้เร็วปานกลางไปก่อน ทำรางไว้แล้วค่อยเปลี่ยนรถ

วันนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย นายกฯกล่าวว่า เรื่องการทำโครงสร้างพื้นฐานถนนการขนส่งคน รางสินค้า ต้องทบทวนดูอีกที บางทีพอเราคิดเป็นท่อนๆ ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล จึงต้องมีการปรับแก้ ปรับเปลี่ยนเจรจาเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ตราบใดที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาที่ต้องเป็นโครงการ จ่ายเงิน จ่ายทอง ยังฟรีอยู่ คิดว่าจะสำเร็จโดยเร็ว

“ไม่ใช่ว่าจากความเร็วสูง ลดลงเหลือปานกลาง แล้วทำไมยังแพง ไปดูว่ามี เพิ่มเติมตรงไหนอีก เรื่องแบบนี้ไม่เคยดู แล้วก็มาตำหนิอยู่ทุกวัน ตนก็คิดว่ารางก็เตรียมไว้วันหน้าก็เปลี่ยนรถแค่นั้น วันนี้อาจจะยังไม่จำเป็น ก็ใช้รถความเร็วปานกลางก่อน ใช้กันต่อไป ค่อยๆ พัฒนาเป็นเส้นๆ ตามหลักความเร่งด่วน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

หัวหน้า คสช.ได้สรุปผลการทำงานที่สำคัญของรัฐบาลและ คสช.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันอย่างยั่งยืนให้กับทุกจังหวัด โดยเฉพาะการควบคุมการเผาในพื้นที่ ซึ่งตนได้เสนอในที่ประชุมที่สหรัฐฯเรื่องความร่วมมือการแก้ไขหมอกควันในอาเซียนทั้งหมด ทุกคนก็ร่วมมือกันเห็นด้วย เรื่องการเผาป่าต่อไปนี้ต้องลงโทษสถานหนัก มีการจัดชุดลาดตระเวนร่วม มีการประกาศเขตห้ามเผา แต่ก่อนนี้บางทีทุกคนเผาพร้อมกันหมด บางพื้นที่จำเป็นก็ต้องควบคุมให้ได้ เพราะเป็นหลักการเหมือนกันในเรื่องการแก้ไขไฟป่า ต้องไม่เกิดเวลาพร้อมกัน เจ้าหน้าที่จะต้องเข้มงวดขึ้น

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธในขณะนี้ว่า เรื่องใดก็ตามที่เป็นเรื่องของแต่ละองค์กร ต้องแก้ปัญหาของตัวเองให้ได้ ศาสนาก็มีพระราชบัญญัติอยู่แล้ว มีหน่วยงานของพระ ก็แก้กันให้ได้ รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุน ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง แต่ถ้าแก้ไม่ได้ก็วุ่นวายอยู่แบบนี้ ก็กลายเป็นว่า รัฐบาลเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการปกครองสงฆ์เข้าไปอีก ถ้าทุกท่านยังขัดแย้งกันอยู่แบบนี้ ตนก็ทำหน้าที่ให้ท่านไม่ได้

Advertisement

นายกฯกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีโพสต์อยู่ในโซเชียลมีเดีย มีรูปตนกับภรรยากำลังกราบท่านจุฬาราชมนตรี ซึ่งก็กำลังสวดให้พรตน ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่เอาไปโพสต์กันว่า ตนขายชาติไปร่วมมือกับศาสนาอื่น แย่มาก ไม่รู้เขียนไปได้อย่างไร รวมทั้งยังมีรูปขณะที่ตนและภรรยาไปร่วมงานวันประชุมอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย ก็อยู่ในพิธีเปิด ที่มีการแต่งกายทั้งมุสลิม ทั้งพุทธ ทั้งคริสต์ ผู้นำของทั้ง 10 ประเทศก็ไปร่วม ปรากฏว่าไปถ่ายรูปภรรยาตนในมุมที่มีคนมุสลิม ใส่ผ้าคลุม ก็กลายเป็นว่าตนไปเป็นอิสลามอีก

“ทำไมคิดได้อย่างนี้ ผมไม่เข้าใจ นี่คือสิ่งที่เป็นอันตรายคือโซเชียลมีเดีย ที่ไม่มีจิตสำนึกเยอะ นึกจะเขียนอะไรก็เขียน เขียนโดยที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง งานก็เป็นงานของชาติ มีหลายศาสนา ก็มานั่งอยู่ด้วยกันทั้งหมด ผมกลายเป็นจะทิ้งพุทธไปสู่มุสลิม นี่สร้างความขัดแย้ง ช่วยกันรังเกียจคนเหล่านี้หน่อย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯกล่าวถึงการจัดระเบียบสื่อมวลชน โดยกำหนดให้ถามคำถามได้ไม่เกิน 4 คำถามในแต่ละการแถลงข่าวด้วยว่า ถามกันว่าทำไมต้อง 4 คำถาม ตนไปเมืองนอก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image