ฮิลลารี ลั่น! ขอยืนข้างกลุ่มผู้ประท้วง หลังทรัมป์สั่งห้ามคน7ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐ

กรณี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าทำตามสัญญาในนโยบายช่วงการรณรงค์หาเสียง ไม่สนเสียงโลกก่นด่า โดยได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหารชุดใหม่ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การระงับโครงการเปิดรับผู้อพยพของสหรัฐเป็นเวลา 120 วัน ห้ามรับผู้อพยพชาวซีเรียจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ระงับการออกวีซ่า 90 วัน สำหรับผู้เดินทางมาจาก 7 ประเทศที่ถูกระบุว่าเป็นประเทศที่น่ากังวล ประกอบด้วย ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ซูดาน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน

หลังจากนั้นได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่บริเวณท่าอากาศยานเจเอฟเคในนครนิวยอร์ก เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งพิเศษของฝ่ายบริหารที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามคำสั่งห้ามไม่ให้ชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศ คือ ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ซูดาน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน เข้าสหรัฐ โดยมาตรการกลั่นกรองด้านการตรวจคนเข้าเมืองที่ประกาศใช้กะทันหันทำให้ผู้โดยสารจากหลายสายการบินที่เข้าข่ายต้องถูกกักตัวไว้ที่สนามบินไม่สามารถผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองได้ และต้องถูกส่งกลับ โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้เบื้องต้นเป็นเวลา 90 วัน ขณะเดียวกันก็เกิดปฏิกิริยาอย่างกว้างขวางมีการประท้วงลุกลามไปยังท่าอากาศยานต่างๆ ทั้งในกรุงวอชิงตันและนครอื่นๆ เช่นกัน

ล่าสุดวันนี้ (29 มกราคม) นางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ตัวแทนพรรคเดโมแครตและช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความระบุว่า “ดิฉันขอยืนอยู่เคียงข้างผู้ชุมนุมที่มารวมตัวกันทั่วประเทศในคืนนี้ เพื่อปกป้องหลักการ คุณค่า และรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image