ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เปิด 4 เทรนด์โลกเปลี่ยน ที่ผู้ประกอบการต้องรู้

• ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ จัดทำ e-Book “เจาะเทรนด์ 2017” มุ่งจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ผู้ประกอบการทุกแวดวงธุรกิจให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

กรุงเทพฯ 31 มกราคม 2560 – ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เปิด 4 เทรนด์โลกประจำปี 2017 ที่ผู้ประกอบการต้องรู้ อันเป็นผลมาจากความทันสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมต่างๆ ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ “ความเบลอ” หรือ “ความเลือนราง” ใน 4 ประเด็น คือ 1. ประชากรศาสตร์ (Demographic Blur) 2. เขตแดน (Boundary Blur) 3. ความจริง (Reality Blur) 4.ธรรมชาติ (Nature Blur) ทั้งนี้ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ได้จัดทำหนังสือ “เจาะเทรนด์โลก 2017เพื่อให้ผู้ประกอบการในทุกแวดวงธุรกิจสามารถพัฒนาสินค้าและบริการได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้มากที่สุด

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหนังสือบทสรุป เจาะเทรนด์โลก 2017” โดยดาวน์โหลด e-Book ได้ฟรีที่ www.tcdc.or.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) 1160 อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10501 โทรศัพท์ 02-105-7441

นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) กล่าวว่า ปี 2017 นี้ถือเป็นปีที่มีความผสมผสานระหว่างโลกยุคเก่าและโลกยุคใหม่ อันเห็นได้จากประชากรบนโลกที่มีมากมายหลายเจเนอเรชั่น ตั้งแต่ เบบี้บูมเมอร์ (1945 – 1960) เจเนอเรชั่นเอ็กซ์ (1961 – 1981) มิลเลนเนียล (1982 –  2004) เจเนอเรชั่นซี หรือไอเจน (2005 – 2009) และอัลฟ่า เจเนอเรชั่น (2010 – 2015) โดยแต่ละรุ่น แต่ละช่วงอายุคนได้รับอิทธิพลความเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากความทันสมัยของเทคโนโลยีแตกต่างกันออกไป ประกอบกับเทรนด์และกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกยุคปัจจุบัน เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทรนด์และกระแสต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคน โดยเฉพาะผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจ เพราะเทรนด์หรือกระแสดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้ถึง ความสนใจของผู้บริโภค ผู้ประกอบการที่รู้เท่าทันกระแสย่อมได้เปรียบในเรื่องการพัฒนาสินค้าและบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากที่สุด

Advertisement

นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากโจทย์ดังกล่าว จึงกลายเป็นบทสรุปได้ว่า กระแสของเทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมต่างๆ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ความเลือนราง” ใน 4 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค ดังนี้

1. ประชากรศาสตร์ (Demographic Blur) การแบ่งกลุ่มผู้บริโภคตามหลักประชากรศาสตร์กำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยการแบ่งกลุ่มแบบเดิมตาม เพศ วัย หรือศาสนา มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จลดลง ในทางกลับกันหลายธุรกิจแบ่งประเภทสินค้าและบริการ ตามความสนใจ และรสนิยมของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้เกิดเป็นสินค้าและบริการแบบใหม่ที่ไม่ได้จำกัดด้วยหลักประชากรศาสตร์ อาทิ แฟชั่นเครื่องแต่งกายแบบไม่ระบุเพศของแบรนด์ต่างๆ เช่น เอชแอนด์เอ็ม(H&M) และซาร่า(Zara), การใช้เด็กผู้ชายร่วมเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาตุ๊กตาบาร์บี้, โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รองรับครอบครัวแบบหลาย
เจเนอเรชั่น, และเทศกาลงานดนตรีวันเดอร์ฟรุ๊ต (Wonderfruit Festival) ที่รวบรวมประสบการณ์ทั้งดนตรี ศิลปะ สุขภาพเข้าไว้ด้วยกัน

2. เขตแดน (Boundary Blur) เส้นแบ่งของเขตแดนเลือนรางลง การย้ายถิ่นฐานอย่างอิสระนำไปสู่การผสมผสานทางวัฒนธรรม นอกจากนี้เส้นทางที่เชื่อมโยงระหว่างทวีปทำให้เกิดความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้นำไปสู่การเปิดกว้างทางความหลากหลายของเชื้อชาติ อันเห็นได้จากหลายสิ่ง อาทิ งานโอลิมปิก 2016 ณ ประเทศบราซิลกับธีม“Global Diversity”, ตัวละครผิวสีที่ชื่อ “ฟิน” (Finn) ในภาพยนตร์เรื่องสตาร์ วอร์ส, หรือแม้แต่ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีเชื้อชาติแอฟริกัน – อเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา

Advertisement

3. ความจริง (Reality Blur) โลกเสมือนจริงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวันและพฤติกรรมผู้บริโภค โดยผลของกระแสเทคโนโลยีดิจิทัลนี่ทำให้เกิดผลต่างๆ ตามมามากมาย อาทิ กระแสความต้องการแอนะล็อก กลับมาเนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากจนเกินไป จนกลายเป็นเทรนด์ของสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ อาทิ กล้องโพลารอยด์ของ Leica หรือเครื่องเล่นเกมส์ Nintendo Classic ในอีกด้านหนึ่งเทคโนโลยีได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องและอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันมากขึ้นกว่าเค โดยเฉพาะ เทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่ (wearable) เทคโนโลยีสมองกล (A.I.) เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (virtual reality) และอื่นๆ อีกมากมาย ที่กำลังเข้ามาตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในทุกด้าน

4. ธรรมชาติ (Nature Blur) ถึงแม้โลกยุคปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ล้ำนำสมัย และนวัตกรรมต่างๆมากมาย แต่เทรนด์ผู้บริโภคที่กำลังมาแรงและเป็นกระแสอยู่เทรนด์หนึ่งคืกระแสธุรกิจที่ตอบโจทย์คนรักธรรมชาติ อาทิ ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ อาหารออแกนิคจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ ปลูกผักและสร้างฟาร์มเล็กๆ ของตัวเอง เป็นต้น โดยในกระแสรักธรรมชาตินี้ ยังรวมไปถึงการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย และเน้นหลักความยั่งยืนเป็นสำคัญ อันเห็นได้จากประเด็นและสถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นกระแสโลก อาทิ ปรากฎการณ์คอนมาริ (Konmari) หรือการเลือกจัดของตามความสำคัญในการใช้งาน, และเทรนด์การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่างๆ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหนังสือบทสรุป เจาะเทรนด์โลก 2017” ที่ทางศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ในฐานะศูนย์กลางแห่งการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้สังคมไทย ได้ทำการศึกษาวิจัย และสรุปเพื่อเผยแพร่ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่สังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักออกแบบ นักการตลาด นักบริหารแบรนด์ และผู้ประกอบการในทุกแวดวงธุรกิจ เพื่อให้สามารถเข้าใจถึงกระแสโลก และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อันจะสามารถนำไปสร้างสรรค์ ต่อยอด พัฒนาเป็นสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด e-Book “เจาะเทรนด์โลก 2017” ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจาก www.tcdc.or.th นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) 1160 อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10501 โทรศัพท์ 02-105-7441

###

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image