ส.คนพิการ ฟ้องศาลปค. ถอนคำสั่ง ก.คลัง รีดเลือดกองทุนคุณภาพชีวิตคนพิการ”2พันล้าน”

เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ นายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ในฐานะผู้แทนสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย พร้อม นายชัยรัตน์ แสงอรุณ ทนายความ ยื่นฟ้อง กระทรวงการคลัง ,กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1และ 2 เรื่องกระทำการออกคำสั่งโดยมิชอบ กรณีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 กระทรวงการคลังมีหนังสือที่ 0406.2/ล.2973 เรื่องการเรียกให้กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นำเงินสภาพคล่องส่วนเกินที่จำเป็นส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินจำนวน 2 พันล้านบาท โดยให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งเป็นผู้จัดตั้งและกำกับดูแลกองทุนฯ นำเงินส่งคลังภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ได้หนังสือดังกล่าว การออกคำสั่งไม่มีกฎหมายให้อำนาจและยังไม่ปรากฏเป็นที่ยุติว่าเงิน 2 พันล้านบาทเป็นส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียนของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการจริง การจะพิจารณาว่ากองทุนมีเงินส่วนเกินหรือไม่จำนวนเท่าใด ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ต้องประกาศหลักเกณฑ์, กระบวนการ, ขั้นตอน, วิธีการคำนวณแจ้งไว้ก่อน แม้การออกคำสั่งนี้ผู้ถูกฟ้องทั้งสองจะอ้างอำนาจตามข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการให้องค์การของรัฐบาลที่ใช้ทุน หรือทุนหมุนเวียน นำทุนหรือผลกำไร เข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 1 พ.ศ.2556 โดยอาศัยอำนาจ ตาม พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ.2491 ก็ตาม

โดยสมาคมสภาคนพิการฯผู้ฟ้อง ขอให้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลังดังกล่าวที่ให้กองทุนฯนำเงิน 2 พันล้านบาท ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน และขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามผู้ถูกฟ้องทั้งสองดำเนินการใดๆเพื่อจะออกกฎหรือคำสั่ง หรือกระทำการใดๆที่กำหนดให้กองทุนฯนำเงินของกองทุนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

ทั้งนี้สมาคมสภาผู้พิการฯ ยังขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของกระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ที่ให้ พก. ผู้ถูกฟ้องที่ 2 ดำเนินการใดๆ นำเงินของกองทุนฯ ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนเพราะหาก พก.ผู้ถูกฟ้องที่ 2 ส่งเงินของกองทุนฯไปให้กระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้องที่ 1 จะทำให้เกิดความเสียหายต่อกองทุนฯและคนพิการทุกประเภททั่วประเทศไทยที่จะเสียสิทธิที่พึงมีพึงได้ เพื่อเป็นทุนสำหรับการใช้จ่ายเกี่ยวกับการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รวมทั้งการส่งเสริมและดำเนินงาน ด้านการสงเคราะห์ช่วยเหลือคนพิการ การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ การศึกษาและการประกอบอาชีพของคนพิการ รวมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนดำเนินงานขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ ซึ่งคนพิการทุกคนมีความจำเป็นพิเศษที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือด้านหนึ่งด้านใด

ดังนั้นหากให้มีการส่งเงินเข้าคลังไปแล้วจะไม่สามารถนำเงินกลับคืนเข้ากองทุนได้โดยง่าย ขณะที่การจะสั่งให้ทุเลาบังคับตามคำสั่งของกระทรวงการคลังดังกล่าว จะไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือบริการสาธารณะ เพราะแต่ละหน่วยงานของรัฐได้รับงบประมาณตาม พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีล่วงหน้า เพื่อดำเนินภารกิจตามแผนงานของแต่ละหน่วยงานไปแล้ว ประกอบกับกระทรวงการคลังมีอำนาจและวิธีการที่จะหาเงินจากหลากหลายวิธีรวมถึงการไปบังคับเอากับกองทุนอื่นซึ่งมีอยู่ประมาณ 100 กว่ากองทุน ไม่ควรมาเองเงินของกองทุนพิการซึ่งจะไม่พอใช้โดยเป็นการกระทำที่มีลักษณะเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการ ขัดต่อกฎหมายและหลักการปกครอง

Advertisement

โดยศาลปกครองกลางรับคำร้องไว้เพื่อมีคำสั่ง อย่างใด อย่างหนึ่ง และจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ต่อไป

ทั้งนี้สมาคมสภาคนพิการฯยังระบุด้วยว่า เคยยื่นหนังสือร้องเรียนในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ มี นายณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติให้ผู้แทนกระทรวงการคลังหารือร่วมกับผู้แทนสมาคมสภาคนพิการฯ และองค์กรคนพิการอื่น แต่การหารือนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ กองทุนคนพิการเป็นเงินที่ได้มาจากการจัดตั้งขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะกิจตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 โดยเงินส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากงบประมาณแผ่นดิน แต่มาจากนายจ้างที่ไม่ได้รับคนพิการเข้าทำงานตามระบบโควต้า และปรารถนาจะส่งเงินเข้ากองทุน รวมทั้งเป็นเงินจากการออกสลากซึ่งคนพิการมีส่วนร่วมช่วยหาเงินเข้ากองทุนสำเร็จมาแล้วหลายร้อยล้านบาท หากมีการใช้อำนาจบังคับให้กองทุนฯส่งเงินเข้าคลังจะทำให้เกิดความเสียหายต่อคนพิการทุกประเภททั่วประเทศไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image