รวมแก๊งแขกขาวตระเวนขายทองเก๊ 4 ร้านทองย่านนครบาล สูญเงินเฉียด 2 แสน

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่สน.ชนะสงคราม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ดร.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.สุวโรจน์ โชติกาญจนรัศมิ์ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 จับกุมตัว นายอเล็กซานเดอร์ อายุ 40 ปี นางเวียร่า อายุ 39 ปี และ นายโบริส อายุ 32 ปี ทั้งหมดสัญชาติ เซอร์เบีย พร้อมสร้อยคอทองคำปลอม 19 เส้น สร้อยข้อมือทองคำปลอม 2 เส้น ภายหลังทั้งหมดร่วมกันนำทองคำปลอมไปหลอกขายให้กับร้านทองกว่า 4 ร้านในพื้นที่ตำรวจนครบาล สูญเงินไปแล้วกว่า 183,400 บาท

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 31 มกราคมได้มีแก๊งคนร้ายเป็นชาวต่างชาติคล้ายแขกขาวตระเวนนำสร้อยคอทองคำปลอมมาหลอกขายตามร้านทองคำต่างๆย่านบางลำภู 4 ร้าน โดยจะนำทองคำรูปพรรณซึ่งมองจากภายนอกเป็นทองเคแต่ภายในจะเป็นเงินจะนำไปชุบทองค่อนข้างจะหนาจนทำให้ร้านทองหลงเชื่อ หลังเกิดเหตุจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลคนร้ายไปยังร้านทองต่างๆโดยผ่านเครือข่ายไลน์กลุ่มผู้ค้าร้านทอง จนกระทั้งในวันเดียวกันนี้ เวลา13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเครือข่ายร้านทองว่าพบชาวต่างชาตินำทองปลอมมาหลอกขายให้กับร้านทองเอง เซ่ง เฮง ถ.เจริญกรุง แขวงและเขตป้อมปราบ กรุงเทพฯ ทราบชื่อภายหลัง นายอเล็กซานเดอร์ จึงควบคุมตัวไว้ ขณะเดียวกันได้รับรายงานว่ามีชาวต่างชาตินำทองปลอมมาหลอกขายร้านทองเอง ฮั้ว เฮง ถ.จักรพงษ์ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพฯ ทราบชื่อภายหลังนายโบริสจึงได้ประสานฝ่ายสืบสวนสน.ชนะสงครามไปควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่สน.ชนะสงครามก่อนขยายผลไปตามจับกุมตัว นางเวียร่า ภรรยา นายอเล็กซานเดอร์ ได้ที่โรงแรมริกก้าอินท์ ถ.ข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพฯ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดผ่านล่ามอาสาให้การรับสารภาพว่าไม่ทราบว่าทองดังกล่าวเป็นของปลอม โดยก่อนหน้าเคยเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยและรู้จักกับเพื่อนร่วมชาติที่มาเที่ยว โดยเพื่อนระบุว่าหากนำทองคำมาขายที่ประเทศไทยจะได้ราคาดีมากจึงนำทองมาขาย

2
ด้านนางสุดารัตน์ องค์ศรีตระกูล อายุ 59 ปี เจ้าของร้านทองเอง ฮั้ว เฮง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคมเวลาประมาณ 11.00 น. นายโบริส นำทองเค1 เส้นน้ำหนัก 57.2 กรัม มาขายให้ในราคา 45,000 บาท ซึ่งตนก็ได้ทำการทดลองตามขั้นตอนจะแน่ใจแล้วว่าเป็นทองแท้จึงจ่ายเงินไป ขณะที่ทดลองผู้ต้องหาบอกว่าห้ามทำการเลื่อยทองเพราะเกรงว่าทองจะได้รับความเสียหายตนจึงทำตาม หลังจากนั้นเมื่อทำการซื้อขายเสร็จได้นำทองมาเผาเพื่อจะทำการแปรรูปเป็นกลับพบว่ามีแต่เนื้อเงินเท่านั้นตนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดนำรูปพรรณคนร้ายส่งในไลน์กลุ่มผู้ค้าจนพบ 1 ในคนร้ายกำลังนำทองไปขายจึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม

Advertisement

นางสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า การตรวจสอบทองว่าเป็นของแท้หรือไปนั้นต้องทำการทดสอบ 3- 4 ขั้นตอนโดยการฝนหิน นำน้ำกรดหยดดูเนื้อทอง เป่าไฟ เช็คเปอร์เซ็นต์ทองด้วยเลเซอร์ และการเลื่อยดูเนื้อทอง ในส่วนของทองเคนั้นจะมีการตีโค๊ต 750 ไว้เพื่อเป็นการการันตีว่าเป็นทอง 18 เค ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุดโดยส่วนใหญ่ทองเคจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งก็จะมีการตีโต๊ตของแต่ละประเทศเอาไว้แต่กรณีนี้ไม่มีการตีระบุประเทศ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฉ้อโกงและฉ้อโกงก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงครามและสน.พลับพลาไชย2 ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image