ส.ตำรวจ ออกจม.เปิดผนึก ฉะวงเสวนา ‘ตำรวจมีไว้ทำไม’ ชี้ ดูหมิ่น อคติ เหมารวม ทำลายกำลังใจคนดี

พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช นายกสมาคมตำรวจ

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่สมาคมตำรวจ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี-รังสิต พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช นายกสมาคมตำรวจ อ่านจดหมายเปิดผนึก ถึง นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และ คณะผู้เสวนาหัวข้อ “ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร” จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ใจความว่า

“ผมกับอาจารย์เคยทำงานด้วยกันในสมัยที่ พล.ต. มนูญกฤต รูปขจร และผมเป็นที่ปรึกษาของ พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ ผมคิดว่า อาจารย์รู้จักผมดี ผมได้อ่านบทความจากสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการเสวนาของท่านและคณะในหัวข้อ“ตำรวจไทยมีไว้ทำไม” พอได้อ่านหัวข้อเสวนาแล้ว ทำให้ผมเกิดความสนใจว่าผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 4 นั้น บางท่านวุฒิภาวะ ขนาดรองศาสตราจารย์ ไม่รู้จริงหรือแกล้งไม่รู้ว่าตำรวจไทยมีไว้ทำไม คงจะไม่ใช่เช่นนั้นแน่ จึงได้เข้าไปดูในรายละเอียดต่างๆ ของผู้เสวนาแต่ละท่านที่แสดงความคิดเห็น ก็พอสรุปความได้ว่ามีเจตนาอย่างไร และมีความคิดเช่นไรกับตำรวจ”

“ก่อนอื่นผมขอเรียนว่า สำหรับผมนั้นเคยรับราชการตำรวจจนเกษียณอายุราชการและเป็นครูบาอาจารย์ในสถาบันและโรงเรียนตำรวจ เข้าใจคำว่า การเสวนานั้นก็เพื่อระดม แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ เพื่อการปรับปรุง พัฒนา และแก้ไขปัญหาให้องค์กรหรือกลุ่มงานนั้นให้ดีขึ้น แต่จากการดูในรายละเอียดการเสวนาของท่านและคณะนั้น หาใช่เป็นเช่นนั้นไม่ ผมมองว่าคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมพิจารณามีอคติกับข้าราชการตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช่หรือไม่ จึงจำเป็นต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกนี้มา เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน”

จดหมายดังกล่าว ระบุว่า ในทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี การกล่าวหาเหมารวมทั้งองค์กร ทำให้ไม่เป็นธรรมต่อคนดีในองค์กรและทำให้องค์กรเสียหาย

Advertisement

“ท่านก็คงต้องยอมรับในสิ่งนี้ ดังนั้นย่อมเป็นธรรมดาอยู่เอง ในจำนวนตำรวจ 240,000 คน ก็มีตำรวจที่ไม่ดีปะปนอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ผมเองก็ยอมรับแต่มิใช่หมายถึงทั้งหมดอย่างที่ท่านได้กล่าวหาในวงเสวนา การกล่าวหาว่าตำรวจไม่ดีไปเสียทั้งหมดเช่นนี้ ขอให้คิดถึงความรู้สึก และหัวอกของตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่จับกุมคนร้ายในคดีต่างๆได้มากมายจนทำให้สังคมสงบสุข การกล่าวหาเช่นนี้จะนำสู่การแก้ปัญหาได้อย่างไร”

พล.ต.อ.สุวรรณ ระบุในจดหมายด้วยว่า สำหรับแนวคิดที่จะปฏิรูปตำรวจให้อยู่กับท้องถิ่น หรือหน่วยอื่นๆ นั้น ท่านจะสามารถยืนยันด้วยอะไรว่าจะไม่เกิดปัญหาตำรวจชั่วๆได้ และท่านได้ถามหน่วยงานหรือท้องถิ่นแล้วหรือยังว่ามีความพร้อมหรือไม่ ท่านควรปล่อยให้คณะทำงานปฏิรูปตำรวจทั้ง 10 ด้าน ซึ่งได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามแผนในระยะ 1 ปี 5 ปี10 ปี และ 20 ปี ได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ทำงานอย่างเต็มที่ซึ่งคณะทำงานได้มีการประชุมติดตามวางแผนทั้งระบบ โดยเฉพาะการขอรับสนับสนุนงบประมาณในการปฏิรูปตำรวจซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน จึงขอให้ท่านไปติดตามความคืบหน้าเพื่อนำไปบอกกล่าวให้สังคมได้รับทราบว่าตำรวจได้ทำอะไรบ้างในเรื่องของการปฏิรูปจะดีกว่า

“นอกจากนี้บางคำพูดในการเสวนาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า เป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาท ตำรวจในภาพรวมใช่หรือไม่ โดยเฉพาะคำพูดของท่านที่ว่า “ผมยังไม่เห็นว่าตำรวจมีประโยชน์อะไรต่อสังคม ต่อประชาชนบ้าง ตำรวจจำนวน 210,000 คน เรามีเอาไว้ทำไม คำถามนี้ผมตอบไม่ได้จริงๆ” ซึ่งตำรวจที่ดีมีอีกจำนวนมากจะรู้สึกอย่างไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านควรให้ความเคารพต่อดวงวิญญาณของตำรวจผู้กล้าที่ยอมเสียสละแม้ชีวิต เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศและประชาชน และให้นึกถึงความรู้สึกและหัวอกของบิดา มารดา ลูก เมีย และญาติพี่น้องของพวกเขาเหล่านั้นด้วยว่าจะรู้สึกเสียใจอย่างไรในสิ่งที่ท่านและคณะกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมมากมายเพียงใด”

นายกสมาคมตำรวจ ระบุในจดหมายด้วยว่า สำหรับอดีตนายตำรวจ กรุณาไปทบทวนในสิ่งที่ท่านพูดกล่าวหาว่ามีผู้บังคับบัญชาสั่งให้พนักงานสอบสวนไม่รับคำร้องทุกข์ เพราะกลัวสถิติคดีจะเพิ่มขึ้นนั้นเท็จจริงประการใดอย่าพูดกล่าวร้ายผู้อื่นโดยไม่คิดถึงห้วงเวลาที่ท่านเคยดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยไม่คิดว่าหน่วยงานที่ให้กำเนิดท่านจะเกิดความเสียหาย ผมคิดว่าท่านคงจะรู้อยู่แก่ใจ เพราะเรื่องนี้ถ้าเป็นเรื่องจริง หากมีคำถามถามท่านว่าเมื่อครั้งท่านรับราชการท่านได้ทำอะไรในความไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง ท่านจะตอบเช่นใดหรือท่านจะยอมรับว่าเคยมีการกระทำอย่างที่ท่านกล่าวไว้ในวงเสวนาซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ส่วนที่อดีตตำรวจอีกท่านที่พูดถึงการทุจริตการสอบเข้าเป็นนายสิบตำรวจ ดูแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวกับความบกพร่องขององค์กรตำรวจอย่างไร จนเป็นเหตุหนึ่งที่จะต้องปฏิรูปตำรวจในประเด็นนี้สิ่งที่ควรปฏิรูปอย่างแท้จริงควรปฏิรูปบริบทของสังคมไทยเกี่ยวกับการทุจริตในทุกเรื่อง จึงขอให้ท่านโปรดเข้าใจใหม่และอย่าเพิ่งไปคิดเอาเองว่าทุจริตเพื่อเป็นตำรวจเท่านั้น จากที่ปรากฏเป็นข่าวมีการทุจริตการสอบในหลายๆ หน่วยงานเช่นเดียวกัน

“สุดท้ายผมหวังว่าจดหมายฉบับนี้คงจะทำให้ท่านและคณะเข้าใจในการเสวนาอย่างสร้างสรรค์ มีเหตุผล มิใช่เอาข้อเสียของบางบุคคลมาครอบคลุมเป็นเหตุผลเหมารวมทำให้องค์กรเสียหายเป็นการสร้างความแตกแยกและบั่นทอนความปรองดองของคนในสังคมไม่บังเกิดผลดีใดๆ ทั้งสิ้น ผมไม่สามารถลงท้าย “ขอแสดงความนับถือ” มา ณ ที่นี้ได้”นายกสมาคมตำรวจ ระบุในจดหมายเปิดผนึก

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า จากข้อมูลที่นายสังศิตกล่าวในงานเสวนาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)มีการรับเงินนั้นหรือไปกล่าวหาว่าตำรวจทำผิดยิ่งกว่าคนติดยา เอาข้อมูลดังกล่าวจากไหน ไม่มีผลการวิจัยรองรับ เป็นข้อมูลที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ตนขอคัดค้านข้อเสนอของการเสวนาดังกล่าว เรื่องการทุจริตของตำรวจนั้น ถ้าประชาชนไม่ให้ ตำรวจก็รับไม่ได้ เหมือนการตบมือข้างเดียว มันไม่มีทางมีเสียงดังได้ การเสวนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสะใจคนฟัง ชื่องานฟังแล้วเจ็บปวด ทำไมไม่ใช้ชื่อว่าจะปฏิรูปตำรวจอย่างไรจะเหมาะสมกว่า

“การปฏิรูปตำรวจนั้นจะต้องมีอยู่แล้ว เนื่องจากสภาพสังคมนั้นเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ตำรวจมีการปรับเปลี่ยนการทำงาน อย่างไรก็ตามทางสมาคมจะไม่มีการฟ้องร้องคณะผู้จัดเสวนา แม้จะเข้าข่ายหมิ่นประมาทก็ตาม แต่หากยังมีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่เรื่อยๆ จนหน่วยงานตำรวจเสียหาย อาจมีการฟ้องร้องได้ ทั้งนี้ทางสมาคมจัดตั้ง “ศูนย์พิทักษ์ธรรม” เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและตำรวจในการให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว ต่อไปอาจมีการชี้แจงเมื่อหน่วยงานตำรวจได้รับความเสียหาย”นายกสมาคมตำรวจกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image