‘ชวลิต’ เผยใจหาย เห็นเงินคงคลังวูบหนัก ตั้งงบขาดดุลจมลึก
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลและ คสช.พิจารณาข้อมูลที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงปัญหาเศรษฐกิจที่อาจเสียหายหนัก และยากต่อการแก้ไขให้ฟื้นกลับคืนมา หากไม่ออกไปจากปัญหานั้นโดยเร็ว ซึ่งปัญหานั้นได้แก่ 1.เงินคงคลัง จากเกือบ 5 แสนล้านบาท ก่อนรัฐประหาร เหลือเพียง 7 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบหลายปี 2.รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณในปี 2561 ขาดดุลถึง 450,000 ล้านบาท และตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลตั้งงบขาดดุลจมลึกมากขึ้นทุกปีๆ 3.การลงทุนในประเทศ มีแต่งบลงทุนจากภาครัฐเท่านั้น ภาคเอกชนทั้งไทยและเทศไม่ได้ลงทุนให้สอดคล้องกับแนวทางหรือยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ น่าเป็นห่วงว่างบประมาณที่ลงไปขาเดียวจะได้ผลคุ้มค่าหรือไม่ เปรียบเสมือนคนมี 2 ขา หากเดินขาเดียว จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร ประเทศก็เช่นกัน หากภาคเอกชนทั้งไทยและเทศไม่เชื่อมั่นแล้ว ประเทศจะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร
นายชวลิตกล่าวว่า ไปที่ไหนก็มีแต่คนบ่นว่าเศรษฐกิจย่ำแย่ ตนรู้สึกเห็นใจนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ โดยตนเคยเปรียบเปรยว่า ต่อให้ 10 สมคิด ก็แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไปได้ยาก เพราะระบบการเมืองการปกครองไม่เอื้ออำนวย หากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องยอมรับความจริงซึ่งเป็นปัญหาดังกล่าวข้างต้น ก็ยังมีหนทางที่จะออกจากปัญหาได้ทันการณ์ ตนได้แต่หวังว่าปีใหม่ฟ้าใหม่ ถ้าผู้เกี่ยวข้องผู้ใดสามารถบันดาลให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ผู้นั้นจะเป็นเทวดาในสายตาประชาชนทันที
