09.00 INDEX แนวโน้ม ทิศทาง ของ “ปรองดอง” สะท้อน แนวโน้ม “ประชาธิปไตย”

ไม่ว่าจะเห็นด้วย ไม่ว่าจะไม่เห็นด้วย แต่เด่นชัดว่า “ปรองดอง”ได้กลายเป็น “กระแส” ไปแล้ว
คำว่า “กระแส” วัดจากตรงไหน
คำตอบ 1 วัดจากกลุ่มซึ่งถูกมองและประเมินว่ามีความจำเป็นต่อ “ปรองดอง”อย่างยิ่งยวด
นั่นก็คือ กลุ่ม “การเมือง”
ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ล้วนต้องการ “ปรองดอง”
แม้ว่ามี “เป้าหมาย” ไม่เหมือนกัน
คำตอบ 1 วัดจากกลุ่มซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้กุมและชี้ทิศทางทางการเมือง
นั่นก็คือ “คสช.”
ต้องยอมรับว่า ความคิดในเรื่อง “ปรองดอง” ประดิษฐ์คิดสร้างมาจาก “คสช.”อย่างเป็นด้านหลัก
จึงได้มอบภาระนี้ให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ในเบื้องต้นไม่ว่า “คสช.” ไม่ว่าเจ้าตัว คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็คิดจากฐานแห่งความเคยชินของตน
นั่นก็คือ ฐานแห่ง”ทหาร”
เพราะด้านหลักของ”คสช.” คือทหาร และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้าน”ความมั่นคง”
ที่คิดออกมาได้ก็คือ จะมอบหมายให้แขนขาของตนในกระ ทรวงกลาโหมเป็นกำลังสำคัญ
เห็นได้จาก ปลัดกระทรวงกลาโหม และผบ.เหล่าทัพ
แต่เมื่อได้รับเสียงท้วงติงด้วยความเกรงอกเกรงใจยิ่งจากหลายๆฝ่าย
ว่าอาจเป็น”ปรองดอง” แบบ”สีเขียว”
จึงได้ผ่อนปรนออกมาเล็กน้อยว่าจะมีคนอย่าง นายคณิต ณ นคร จะมีคนอย่าง นพ.ประเวศ วะสี
รวมถึงมีคนอย่าง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์

การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของ”คณะกรรมการ”เช่นนี้สะท้อน อะไร
ตอบได้เลยว่า มาจาก”ปรองดอง”
เพียงคำว่า “ปรองดอง” ปลิวว่อนอยู่ในสังคมก็จะก่อให้เกิดพลานุภาพขึ้นมาได้
นำไปสู่การประนีประนอม ผ่อนปรน
แม้ระยะนี้จะยังไม่มีคำสั่ง “ปลดล็อค” ให้พรรคการเมืองและนักการเมืองได้ “เคลื่อนไหว”
แต่เชื่อเถิดว่า คัมมิ่ง ซูน ออน ดิส สกรีน
เพราะว่าภายในคำว่า “ปรองดอง” จะต้องตามมาด้วยคำว่า “ประชาธิปไตย”
“ปรองดอง” เกิดไม่ได้หากไม่มี “ประชาธิปไตย”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image