จากกรณีเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ว่า หลังจากได้ดำเนินการตามขั้นตอน พิจารณารายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 โดยเสนอรายชื่อไป 5 รูป หลังจากนำขึ้นทูลเกล้าฯ ไปแล้วนั้นได้รับแจ้งว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯประกอบพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระเทพสุเมธี สุปฏิปันโนราชบุรี (ไสว วัฑฒโน) เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ฝ่ายธรรมยุต และเจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศาราม พระอารามหลวง พระอนุชาของสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ กล่าวว่า ครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมดรวม 9 คน มีผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 5 คน อาตมาเป็นบุตรชายคนที่ 4 ส่วนสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระพี่ชาย
“วัยเด็กสมเด็จพระสังฆราชได้ไปเรียนหนังสืออยู่กับพระปิตุลาที่เป็นนายทหารอากาศที่ จ.ลพบุรี หลังจากนั้นอายุได้ประมาณกว่า 10 ปี ทรงบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดตรีญาติ หมู่ 6 ต.พงสวาย อ.เมืองราชบุรี หรือวัดใกล้บ้าน พระองค์มีอายุห่างกับอาตมาประมาณ 4-5 ปี เนื่องจากพระองค์เป็นลูกคนที่ 2 ส่วนอาตมาเป็นลูกคนที่ 4 ช่วงชีวิตของพระองค์จะใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.ราชบุรี สมัยทรงบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดตรีญาติ หลวงปู่นุตรเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 1 ของวัดตรีญาติ ขณะนั้นสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินตากโร) มีตำแหน่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะ และอดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ เดินทางมาพักอยู่ที่วัดตรีญาติ ทางสมเด็จพระสังฆราชได้คอยดูแลปรนนิบัติ ทางสมเด็จพระพุทธปาพจนบดีเกิดถูกใจ จึงได้พาไปอยู่ที่วัดราชบพิธฯด้วย” พระเทพสุเมธีกล่าว
พระเทพสุเมธีกล่าวต่อว่า “สมัยที่ยังทรงบรรพชาเป็นสามเณร ช่วงนั้นอาตมาบวชเป็นสามเณรอยู่ที่ จ.ราชบุรีเหมือนกัน ส่วนพระองค์ประทับอยู่กับสมเด็จพระราชาคณะที่วัดราชบพิธฯที่กรุงเทพฯ และทรงอุปสมบทเป็นพระที่วัดนั้นเลย สมัยก่อนพระองค์จะมา จ.ราชบุรีทุกเดือน เพื่อมาเยี่ยมพระบิดากับพระมารดา แต่หลังจากที่พระบิดาและพระมารดาสิ้น พระองค์จะเสด็จเยี่ยมบ้างเมื่อมีภารกิจ หรือเมื่อมีโอกาส”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 1 ต.บางป่า อ.เมืองราชบุรี อดีตบ้านเกิดของสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง 2 ชั้น ที่บ้านมีสวนมะพร้าวอยู่ติดริมคลอง ต้นมะม่วงอายุราวร้อยปีปลูกอยู่กลางพื้นที่ภายในรั้วบ้าน ปัจจุบันนางเตือนจิตต์ มิ่งคำเลิศ อดีตข้าราชการครู พระขนิษฐาคนที่ 8 จะอยู่กับพระญาติที่บ้านหลังดังกล่าว โดยทุกปีระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ทางครอบครัวและพระญาติจะมารวมกันเพื่อทำบุญบ้านเลี้ยงพระเพล เพื่อทำบุญอุทิศให้แก่พระบิดาและพระมารดาที่ล่วงลับไปแล้ว
ด้านนางเตือนจิตต์ มิ่งคำเลิศ อายุ 70 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ อ.เมืองราชบุรี พระขนิษฐาคนที่ 8 ของสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ กล่าวว่า ครอบครัวมีพี่น้อง 9 คน คือนางสุนีย์ บูรพาพร อายุ 92 ปี สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ อายุ 89 ปี นางสุมนรัตน์ อ่อนโยน (เสียชีวิต) พระเทพสุเมธี สุปฏิปันโนราชบุรี เจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศ์ศาราม อ.เมืองราชบุรี นางเพ็ญศรี วิเชียรทอง (เสียชีวิต) นายสวัสดิ์ ประสัตถพงศ์ อายุ 80 ปี นพ.สุนันท์ ประสัตถพงศ์ อายุ 75 ปี นางเตือนจิตต์ มิ่งคำเลิศ อายุ 70 ปี และนางพิณรัตน์ เปี่ยมราศีสกุล อายุ 65 ปี
“หลังทราบข่าวสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 พี่น้อง ครอบครัว พร้อมญาติๆ รู้สึกดีใจ และรู้สึกภาคภูมิใจมาก เพราะถือเป็นมงคลแก่ตระกูลและชาวราชบุรีเป็นที่สุด” นางเตือนจิตต์กล่าว
ทั้งนี้วัดศรีสุริยวงศาราม พระอารามหลวง ที่พระเทพสุเมธี พระอนุชาของสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่เป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น เป็นวัดที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและสมุหพระกลาโหมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) สร้างให้เป็นวัดประจำตระกูลบุนนาค ซึ่งเป็นเวลาหลังจากท่านได้สร้างพระราชวังบนเขาสัตตนารถ และควบคุมดูแลการก่อสร้างวัดสัตตนารถปริวัตรเสร็จเรียบร้อย
เมื่อสิ้นราชการที่ 5 แล้วก็ไม่มีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ไหนมาประทับที่เขาวังอีก จนรัชกาลที่ 7 ทรงโปรดให้ประทานเป็นเขตพุทธาวาสให้เป็นวัดเพื่อจะได้ดูแลรักษาได้ง่าย จากพระราชวังจึงกลายเป็นวัดเขาวัง
