ศาลรับฟ้องคดี ‘ไผ่ ดาวดิน’ ปิดห้องพิจารณาลับ นัดตรวจพยาน 21 มี.ค.นี้

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา และนางพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของนายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ผู้ต้องหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยมีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เพื่อนๆ กลุ่มดาวดิน กลุ่มเครือข่ายนักศึกษา 4 ภาค พร้อมเพื่อนๆ มาคอยให้กำลังใจจำนวนมาก ท่ามกลางมาตรการรักษาความสงบของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ

รายงานระบุว่าตั้งแต่เวลา 08.00 น. เริ่มมีกลุ่มผู้มาคอยให้กำลังใจทยอยเดินทางมารวมกันที่ศาลาพักหน้าศาลจังหวัดขอนแก่น จนกระทั่ง เวลา 09.00 น. รถเรือนจำที่นำตัวนายจตุภัทรมาถึงที่ศาล โดยวิ่งเข้าด้านหลังศาลพาตัวนายจตุภัทรไปไว้ที่ใต้ถุน เพื่อรอรับฟังในเวลา 10.00 น. แต่จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายจตุภัทรออกจากศาลเดินทางกลับเรือนจำทันที โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มารอให้กำลังใจได้พูดคุยกันเพียงสั้นๆ

201702101401011-20150622173355

จากนั้นในเวลาประมาณ 10.30 น. กลุ่มผู้มาคอยให้กำลังใจก็เริ่มทำกิจกรรมให้กำลังใจกับนายจตุภัทรบริเวณด้านหน้าทางเข้าศาล โดยมีการแจกหน้ากากรูปหน้าเหมือนไผ่ พร้อมกับนำป้ายซึ่งในแต่ละป้ายมีข้อความว่า หยุดทำลายกระบวนการยุติธรรม หยุดเลือกปฏิบัติ ยุติธรรม = ปรองดอง และ STOP AND DO THE RIGHT THING ขึ้นมาชู ตามด้วยการอ่านบทกวี ร้องเพลง “บทเพลงของสามัญชน” เพื่อให้กำลังใจไผ่ และต่อมากลุ่มเครือข่ายนักศึกษา 4 ภาค ก็ต่างพากันทำกิจกรรมให้กำลังใจไผ่ โดยการมายืนอ่านบทกลอนให้กำลังใจ พร้อมกับร้องเพลงบทเพลงของสามัญชน เมื่อร้องเพลงพร้อมอ่านบทกลอนเสร็จ ต่างพากันส่งเสียงให้กำลังใจไผ่ว่า “ไผ่ไม่ผิด ไม่เป็นไร” “ไผ่ไม่ผิด ไม่เป็นไร” และแต่ละกิจกรรมที่ให้กำลังใจกลุ่มต่างๆ ใช้เวลาจัดไม่นานก็ได้หยุดกิจกรรม

Advertisement

นายวิบูลย์กล่าวว่า จากเดิมที่นัดไว้คือเป็นการฝากขังครั้งสุดท้ายของพนักงานสอบสวน แต่ปรากฏว่าเค้าไม่ฝากขังแล้ว เขาส่งอัยการ โดยวันนี้อัยการยื่นฟ้องและเบิกตัวไผ่มารับฟังข้อกล่าวหา และว่ากันตามกระบวนการอีกชั้นหนึ่งเราก็จะทำตามสิทธิของเรา เราก็คัดค้านเหมือนเดิม หรือถ้าไม่ให้ เราก็จะยื่นขอประกันตัว ไม่ให้ก็ว่าความ ตอนนี้ต้องรู้ว่าสำนวนเป็นอย่างไร การขอประกันตัวมันสมควรจะต้องใช้ดุลพินิจอย่างไรก็จะเปลี่ยนระดับไปอีก การส่งให้อัยการถือว่าเป็นการฟ้องแล้วก็จะขอสู้คดีในชั้นสืบต่อไป ไผ่จะได้ออกหรือไม่ก็ต้องอยู่กับกระบวนการต่อไป ถ้าเราคัดค้านการฝากขังและดูว่าไม่ต้องขังแล้วก็คงปล่อยได้เลย แต่ถ้าศาลยังไม่ปล่อยตัว เราก็จะยื่นขอประกันตัวเร็วๆ นี้ เราต้องยื่นแน่นอน ซึ่งต่อไปเป็นขั้นตอนของศาลและอัยการ

201702101401018-20150622173355

ขณะที่เวลา 11.40 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายผู้ดูแลคดี เปิดเผยภายหลังที่ได้ออกมาจากห้องพิจารณาคดีว่า วันนี้ศาลเบิกตัวไผ่มารับฟัง เนื่องจากพนักงานอัยการได้ยื่นคำฟ้องศาล และศาลก็รับคำฟ้องไว้ เนื่องจากเป็นคดีหมายเลขดำที่ 301/60 ระหว่างพนักงานอัยการกับนายจตุภัทร โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งศาลก็ได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 21 มีนาคม 2560 เวลา 09.00 น. ซึ่งศาลก็ยังให้กระบวนการพิจารณาคดีนี้เป็นการพิจารณาแบบลับ คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าฟังการพิจารณาคดีโดยอนุญาตให้เฉพาะผู้ต้องหา บิดา มารดา กับทนายจำเลยเข้าฟังการเบิกความของพยานโจทก์เท่านั้น

Advertisement

นายกฤษฎางค์กล่าวต่อว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ฟ้องไผ่ ศาลก็ได้สอบถามผู้ต้องหา ไผ่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ฟ้องในคำฟ้องและขอต่อสู้คดี ซึ่งเราจะต้องรวบรวมหลักฐานจากพยานหลักฐานของโจทก์อัยการกับตำรวจที่กล่าวหาว่าเป็นความผิดจริงหรือไม่ และกำลังประชุมในระหว่างทนายจำเลยด้วยกันว่าคณะทำงานเรามีความเห็นว่าควรขอให้มีการเปิดเผยการพิจารณาคดีนี้เป็นการพิจารณาคดีแบบเปิดเผย เรายืนยันว่าคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนสมควรจะรู้ เพราะถ้อยคำที่ถูกกล่าวหาไม่ได้เป็นถ้อยคำที่หมิ่นสถาบัน แล้วถ้อยคำที่เขียนอยู่นี้มันไม่เป็นความจริง ประชาชนจะได้รู้ว่าจริงๆ ที่กล่าวมานี้มันไม่สมเหตุสมผล เราจะขอให้ศาลเปิดการพิจารณาคดีแบบเปิดเผยก็ต้องรอดูว่าศาลท่านจะรับเรื่องหรือไม่

ส่วนเรื่องการขอประกันตัวนั้น นายกฤษฎางค์กล่าวว่า กำลังปรึกษากับพ่อ-แม่ของไผ่ในการขอยื่นประกันตัว คงต้องดูว่าศาลจะให้โอกาสต่อสู้แค่ไหนการยื่นขอประกันตัวไผ่ เพราะว่าการพิจารณาคดีลับแล้วยังไม่ให้โอกาสออกไปต่อสู้คดีนี้มันทำให้ทางเราเสียเปรียบในเชิงคดี ซึ่งทางศาลปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเกรงจะหลบหนี ซึ่งเป็นหน้าที่ทางเราจะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าเราไม่หลบหนี เพราะพยานหลักฐานในคดีนี้มันเป็นคดีถูกกล่าวหาว่าเด็ดขาด การจะไปเปลี่ยนแปลงหลักฐานทำไม่ได้อีกแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการเก็บข้อมูลหลักฐานเหล่านี้ไว้เรียบร้อยแล้ว โอกาสที่จะไปยุ่งเหยิงในพยานหลักฐานจึงเป็นไปไม่ได้เลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image