บางกอกแอร์เวย์งดบินกรุงเทพ-ภูเก็ต ผวา ผู้โดยสารสนทนาถึง”ระเบิด”

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชิญตัวคณะผู้โดยสาร 4 ราย มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากที่เกิดเหตุความเข้าใจผิดขึ้นระหว่างลูกเรือของสายการบินบางกอกแอร์เวย์กับคณะผู้โดยสาร ว่ามีระเบิดซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสัมภาระบนเครื่องบิน PG 924 เส้นทางกรุงเทพฯ – ภูเก็ต ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เวลา 12.30 น. ทำให้กัปตันสายการบินตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าวและประกาศภาวะฉุกเฉินตามแผนของความปลอดภัยสายการบิน เมื่อเวลา 12.54 น. ที่ผ่านมา

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.54 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ว่า ผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางมาด้วยกันทั้งหมด 4 ท่าน มีการสนทนาที่ทำให้นักบินจำเป็นต้องพิจารณาขอใช้แผนฉุกเฉิน กรณีการขู่วางระเบิดอากาศยาน บนอากาศยานเที่ยวบิน PG 924 เส้นทางกรุงเทพฯ – ภูเก็ต ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เวลา 12.30 น. พร้อมด้วยผู้โดยสาร 156 คนและลูกเรือ 8 คน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่ผู้โดยสารกำลังเก็บสัมภาระติดตัวบนอากาศยาน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ กัปตันเครื่องบินลำดังกล่าวจึงตัดสินใจระงับเที่ยวบินเป็นการชั่วคราวและนำเครื่องเข้าจอดที่หลุมจอด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ ทสภ. จึงได้มีการประกาศใช้แผนฉุกเฉิน บทที่ 9 กรณีการขู่วางระเบิดอากาศยาน และจัดส่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ฝ่ายรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตามแผนฉุกเฉินโดยทันที โดยได้มีการนำผู้โดยสารลงจากเครื่องบินเพื่อไปตรวจค้นร่างกาย และนำสัมภาระของผู้โดยสารลงจากเครื่องเพื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

201602211658382-20141128130850

ด้านนาย วิชาฤทธิ์ นาเมืองรักษ์ ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นหนึ่งในคณะผู้โดยสารออกมาให้การยอมรับว่า ตนเองและคณะมีกำหนดการจะเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำพิธีทางพราหมณ์ในพิธีตั้งศาลพระภูมิ โดยระหว่างที่ลูกเรือของสายการบินได้ให้เกียรติเชิญคณะขึ้นเครื่องบินก่อนผู้โดยสารท่านอื่นนั้น ระหว่างกำลังนำกระเป๋าสัมภาระซึ่งภายในบรรจุอุปกรณ์ประกอบพิธีของพราหมณ์ ซึ่งถือว่าเป็นของสำคัญอย่างมากชำรุดเสียหายไม่ได้ โดยหนึ่งในนั้นคือ กลองบัณเฑาะว์ ต้องห้ามเกิดความเสียหายหรือแตกขาดเป็นเด็ดขาดตนเองเห็นว่าเพื่อนในคณะกำลังจะนำกระเป๋าที่บรรจุกลองบัณเฑาะว์ ไว้เข้าใส่ไว้ในที่วางสัมภาระบนเหนือศรีษะ ตนเองเกรงว่าจะเกิดความเสียหายหากวางรุนแรง จึงพูดกับเพื่อนคนนั้นว่า ระวังมันจะเบิด ซึ่งเป็นสำเนียงภาษาทางภาคอีสานของไทย และเป็นคำพื้นเมืองของคนอีสานที่ใช้คำนี้ ซึ่งหากแปลเป็นคำไทยหมายความว่า กลัวกลองบัณเฑาะว์จะแตก แต่ภาษาอีสานคำว่าแตก คือระเบิด จึงพูดออกมาโดยไม่รู้ว่าคำดังกล่าวเป็นคำต้องห้ามพูดบนเครื่องบินจนทำให้ เกิดความเข้าใจผิดดังกล่าว

Advertisement

นายวิชาฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะป่วนสายการบินแต่อย่างใด ตนเยังกล่าวขอโทษต่อลูกเรือด้วยซ้ำและบอกไปว่าจะไม่พูดคำนี้อีกต่อไปกระทั่งมีผู้โดยสารทยอยเดินขึ้นเครื่องจนเกือบเติมเครื่องแล้วจู่ๆได้ยินเสียงประกาศจากกัปตันว่าเกิดเหตุขัดข้องทางการบินและไม่สามารถนำ เที่ยวบินเดินทางไปได้จากนั้นลูกเรือก็ให้ผู้โดยสารทั้งหมดลงจากเครื่องกระทั่งมีเจ้า หน้าที่รักษาความปลอดภัยมาเชิญตัวมายัง สภ.ถึงได้ทราบว่าคำพูดที่กล่าวไปใน ภาษาของคนอีสานนั้นจะกลายเป็นความผิดทางกฎหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญเจ้าหน้าที่สายการบินและคณะผู้โดยสารมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.ส่วนจะพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่นั้น คงต้องรอสอบพยานและผู้กล่าวหาอีกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image