ทีมนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยประกอบด้วย มหาวิทยาลัยชานตงจากจีน, มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ริเวอร์ไซด์ และทีมจากห้องปฏิบัติการแห่งชาติ ลอว์เรนซ์ เบิร์กลีย์ ของสหรัฐอเมริกา ร่วมกันพัฒนากระดาษชนิดใหม่ ที่สามารถพิมพ์ซ้ำได้อย่างน้อย 80 ครั้ง ให้คุณภาพการพิมพ์ชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องเปลืองหมึกพิมพ์อีกต่อไป
งานวิจัยดังกล่าวได้แรงบันดาลใจจากข้อเท็จจริงที่ว่า แม้โลกทุกวันนี้จะเต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำให้กระดาษลดความจำเป็นลงไปมาก แต่โครงการเปเปอร์เลสโปรเจ็กต์ ก็ยังระบุว่า พนักงานประจำสำนักงานรายหนึ่งๆ ยังใช้กระดาษในการทำงานมากถึง 10,000 แผ่นต่อปีโดยเฉลี่ย สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ 45 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนดังกล่าวนี้ ลงเอยไปอยู่ในถังขยะในวันเดียวกับที่มันถูกพิมพ์ออกมาจากพรินเตอร์
กระดาษใหม่ที่ได้จากงานวิจัยครั้งนี้ยังคงมีพื้นฐานมาจากกระดาษทั่วไป ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดิมและต้นทุนในการผลิตต่ำ แต่ถูกเคลือบผิวด้วยสารเคมีสังเคราะห์ที่มีอนุภาคในระดับนาโน ทำให้กระดาษกลายเป็นสีฟ้าเข้มสดใส เมื่อผ่านการพิมพ์โดยหัวพิมพ์ที่ใช้แสงเลเซอร์แล้วนำมากระทบกับแสงยูวีหรือแสงทั่วไป สีฟ้าที่ไม่ถูกแสงเลเซอร์จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ทิ้งตัวอักษรที่พิมพ์ให้เป็นสีฟ้าเหมือนเดิม
งานพิมพ์ที่ได้จะคมชัดกว่างานพิมพ์ทั่วไปซึ่งต้องใช้หมึกพิมพ์ส่วนใหญ่ ที่ดีกว่าก็คือตัวอักษรหรือภาพทั้งหมดจะเลือนหายไปภายใน 5 วัน กระดาษแผ่นดังกล่าวก็พร้อมที่จะนำกลับมาพิมพ์ใหม่ได้อีกครั้ง แต่หากต้องการพิมพ์ซ้ำโดยเร็ว ก็สามารถทำได้ด้วยการนำกระดาษไปผ่านความร้อนที่ 250 องศาฟาเรนไฮท์ (121 องศาเซลเซียส) นาน 10 นาทีก็จะได้กระดาษกลับมาพิมพ์ซ้ำใหม่อีกครั้ง กระดาษแบบใหม่นี้สามารถพิมพ์ซ้ำได้สูงสุด 80 ครั้งด้วยกัน
ทางทีมวิจัยกำลังพัฒนาเครื่องพิมพ์เลเซอร์สำหรับใช้ร่วมกับกระดาษใหม่นี้ขึ้นมา และเริ่มวิจัยเพื่อหาทางให้สามารถสร้างงานพิมพ์สีแบบฟุลคัลเลอร์ได้อีกด้วย ผู้ที่ต้องการขีดเขียนหรือทำเครื่องหมายเพิ่มเติมไว้กับกระดาษก็สามารถทำได้โดยอาศัยปากกาเลเซอร์ ข้อเสียของกระดาษใหม่นี้ มีเพียงอย่างเดียวนั่นคือ งานพิมพ์ที่ได้จะไม่ใช่งานพิมพ์ถาวรอีกต่อไป หากต้องการพิมพ์เพื่อเก็บไว้อ่านเป็นเวลานานๆ ก็ยังคงจำเป็นต้องใช้วิธีการพิมพ์แบบเดิม
อย่างไรก็ตาม หากคิดว่างานพิมพ์บนกระดาษที่เราใช้กันอยู่ส่วนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้เป็นการถาวร กระดาษไฮเทคนี้ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง
เพื่อลดปัญหาการตัดต้นไม้ปีละเฉลี่ย 68 ล้านต้นเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบทำกระดาษสนองความต้องการของโลกลงได้มากมายเลยทีเดียว