09.00 INDEX “พลานุภาพ”แห่งสถานการณ์ “ปรองดอง” สัมผัสแรงสะเทือนส่งจาก “ประชาธิปัตย์”

นับวันคำว่า “ปรองดอง” ยิ่งสำแดง “พลานุภาพ” ของมันออกมาให้เป็นที่ปรากฏ
ไม่ต้องไปมองทางด้าน”เพื่อไทย” หรือ”นปช.”
ขอให้มองจากด้านของ “ประชาธิปัตย์” และของ “กปปส.”เป็นด้านหลัก
ไม่ว่าจะเป็น นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ
ไม่ว่าจะเป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่าจะเป็น นายถาวร เสนเนียม
แล้วจะสัมผัสได้ถึง “ฤทธานุภาพ”
ที่ว่าไม่จำเป็นต้องมองทางด้าน “เพื่อไทย” หรือ “นปช.”เนื่อง จากด้านนี้อยู่ในฐานะที่ “ถูกกระทำ”
ย่อมดำรงอยู่ในลักษณะ “ตั้งรับ” ปากบ่ได้ ไอบ่ดัง
ตรงกันข้าม “ประชาธิปัตย์” และ”กปปส.”อยู่ในฐานะ”กระทำ” ดำรงอยู่ในลักษณะ “รุก”
เป็นสถานะเดียวกันกับ “คสช.”

การจะอ่านว่า “คสช.” คิดอย่างไรจำเป็นต้องมองไปยัง “เครือข่าย” ที่แวดล้อม
นั่นก็คือ มองผ่าน “กองเชียร์”
นั่นก็คือ มองผ่าน “พันธมิตร” ที่มีส่วนในการทำให้ “คสช.”ได้เข้ามาอยู่ในสถานะอย่าง “ปัจจุบัน”
หากไม่มองอย่าง “เปรียบเทียบ” ก็จะไม่เห็น
แน่นอน คนใน”ประชาธิปัตย์” คนใน”กปปส.”อาจไม่ได้มอง “ปรองดอง” ในมุมเดียวกันกับคนอย่าง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หรือคนอย่าง นายสมคิด เลิศไพฑูรย์
แต่หากติดตามก็จะสัมผัสได้ในสภาวะ “ใกล้เคียง”
ทาง 1 สัมผัสได้ในความหวาดระแวงต่อการเข้าร่วมส่วนกับ

“ปรองดอง”ของอีกฝ่ายว่า บริสุทธิ์ จริงใจ มากน้อยเพียงใด
ขณะเดียวกัน ทาง 1 ก็ดำเนินไปอย่าง “เรียกร้อง”
คำว่าต้องมีการยอมเสียสละ ต้องมีการเปลี่ยน “กรอบคิด” หรือเรียกให้หรูหราว่า “กระบวนทัศน์” บังเกิดอย่างต่อเนื่อง
แต่มิได้เรียกร้อง”เรา” หากเรียกร้อง”เขา”

อาจเป็นเพราะ “ปรองดอง” มาพร้อมกับคำว่า “เปิดกว้าง” จึงปรากฎ “พลานุภาพ”โดยอัตโนมัติ
ข้อเรียกร้องต่อ “เขา” จึงขยายวง
เป้าหมายหลัก เป้าหมายเดิม เป็นข้อเรียกร้องต่อ”เพื่อไทย” และต่อ “นปช.”อย่างแน่นอน แต่ค่อยๆขยายวงไปยัง “คสช.”ด้วย
คำว่า “ประชาธิปไตย” คำว่า “เผด็จการ” จึงได้รับการอ้างอิงติดกับ 2 เรียวปากเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา
คนที่จะต้อง “สะอึก” เป็นใครก็รู้ๆกันอยู่
ตรงนี้แหละคือ “ความละเอียดอ่อน”ในทางความคิดอันเนื่องแต่ผลสะเทือนของ “ปรองดอง”
ในที่สุด ก็ทำให้”คสช.”ต้องกลายเป็น”เป้า”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image