เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) กล่าวถึงกรณีสำนักงบประมาณปรับเพิ่มงบกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ (บัตรทอง) ให้อีก 500 ล้านบาทจากเดิมอนุมัติให้128,533 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าที่สปสช.เสนอ141,916 ล้านบาท และหากไม่เพียงพอให้ของบประมาณกลางปีแทน ว่า การเพิ่มงบประมาณให้อีก 500 ล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นไปตามข้อมูลทางวิชาการที่คณะกรรมการเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล เป็นประธานได้เสนอว่าควรเพิ่มงบในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.2 ต่อปี เพื่อคงสิทธิประโยชน์ในบัตรทองให้เหมือนเดิม ดังนั้น จึงไม่ได้กระทบกับสิทธิเดิมที่มีอยู่ เพียงแต่จะไม่เพียงพอกับโครงการใหม่ๆที่มีการขยายสิทธิประโยชน์เพิ่ม ซึ่งตรงนี้สำนักงบฯเข้าใจและแนะว่าให้ขอผ่านงบประมาณกลางปีแทน
“ก็เข้าใจว่างบประมาณประเทศมีจำกัด การเพิ่มขึ้นจึงอาจไม่ได้มากเท่าที่เสนอ แต่ก็อยู่ที่การบริหารจัดการ ส่วนนี้จึงต้องมามองว่าจะมีการบริหารอย่างไรให้ดีที่สุด” นพ.ปิยะสกล กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ และได้รับงบไม่เพียงพอก็จำเป็นต้องมีการเสนอของบประมาณกลางปี
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของการบริหารจัดการงบกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานหรือลูกจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) อย่างไรเมื่องบฯจะหมดในเดือนเมษายนี้ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขณะนี้ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทย(มท.) ไปบ้างแล้ว ซึ่งก็ต้องไปแก้บันทึกข้อตกลงใหม่ว่าจะเดินเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งต้องไม่กระทบกับผู้รับบริการทุกคน
นายธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม ผู้แทนเทศบาล บอร์ด สปสช. และ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนรักษาพยาบาล อปท. มีตัวเลขติดลบ 2,600 ล้านบาท ซึ่งยังมีพอจ่ายอยู่ถึงเดือนเมษายนปีนี้ และได้เสนอทางออกให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ของบกลางจากคณะรัฐมนตรีมาอุดหนุนแก้ปัญหาโดยด่วน โดยเบื้องต้นงบปีนี้ที่ต้องบริหารค่ารักษาพยาบาลให้กับพนักงานและลูกจ้าง อปท.อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่ตั้งอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท แต่ถ้าทุกอย่างยังไม่มีทางออกภายในเดือนเมษายนนี้ก็จะเกิดวิกฤตได้
“ตอนนี้ก็พยายามติดตามสถานการณ์อยู่ว่า จากนี้เมื่อ สปสช.มีมติแล้วว่า ให้ทำหนังสือถึงมหาดไทย ก็ได้ประสานกับ มท. และอาจต้องคุยกับสำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจที่อยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรี อีกครั้งว่าจะมีมติหรือความเห็นอะไร แต่วันนี้เรายังจัดการเบิกจ่ายค่ารักพยาบาลให้กับ อปท.ได้ เพราะเม็ดเงินยังมีอยู่” นายธีรวุฒิ กล่าว
