ภาพเก่า…เล่าตำนาน เรื่อง ตำนานการใช้อาวุธปืนในอเมริกา : เรียบเรียงโดย พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

ประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน เคยเป็นดินแดนที่มีชาวพื้นเมืองอยู่อาศัยมาก่อนหลายพันปี ในปี พ.ศ.2035 (ตรงกับสมัยอยุธยาตอนต้น) คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นำเรือออกจากสเปนเสี่ยงตายข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปพบทวีปอเมริกา ต่อมาในปี พ.ศ.2163 ชาวอังกฤษที่ต้องการเสรีภาพในการนับถือศาสนา ต้องการชีวิตใหม่ที่มีอิสรภาพ เสรีภาพ ก็แห่กันลงเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าไปจับจองดินแดนในทวีปอเมริกาที่เรียกกันว่า “โลกใหม่” (New World) ที่แสนจะกว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์

Online-พกปืนในอเมริกา 2

ผู้อพยพจากเกาะอังกฤษและชาวยุโรปที่เข้าไปตั้งรกรากในอเมริกามีสายเลือดนักผจญภัย ชอบการสำรวจแสวงหาและเป็นนักเสี่ยงโชค พื้นฐานของชายชาวยุโรป เคยมีประเพณีการ ดวลดาบตัวต่อตัว เพื่อตัดสินปัญหาแบบลูกผู้ชาย เพื่อปกป้องเกียรติยศโดยหวังผล อยู่หรือตาย ต่อมาเมื่อมีอาวุธปืนจึงนำเอาวิธีการตัดสินปัญหาด้วย “การดวลปืน” ติดเข้าไปในดินแดนอเมริกา ค่านิยมในยุคนั้นถือว่าเป็นการผดุงความยุติธรรม ประการสำคัญคือ เป็นเรื่องของสุภาพบุรุษพึงรักษาเกียรติยศชื่อเสียง “ฆ่าได้ หยามไม่ได้” และยังแฝงด้วยความเชื่อกันว่า พระเจ้าย่อมคุ้มครองคนดีที่ทำถูกต้องเท่านั้น คนทำผิดต้องตายเพราะพระเจ้าจะไม่ปกป้องคนทำผิด ปรัชญาแนวคิดแบบนี้ฝรั่งในยุโรปปฏิบัติมาช้านาน เพราะยังไม่มีระบบการตัดสินคดีความ เช่นในอังกฤษ จะพิสูจน์ความผิดโดยให้ผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาเอามือจุ่มลงไปในหม้อน้ำเดือดเพื่อหยิบก้อนหินและอีก 3 วันต่อมาจะมีกรรมการไปตรวจแผล

ถ้าแผลที่มือใครมีอาการพุพองมากกว่าแสดงว่าคนนั้นผิดเพราะพระเจ้าไม่คุ้มครองคนผิด

Advertisement

ย้อนไปในช่วงศตวรรษที่ 16 ก่อนที่ชาวยุโรปจะเข้าไปตั้งรกรากในอเมริกา ชาวสเปนที่ยึดครองดินแดนทางใต้ของอเมริกา (เม็กซิโก) นำวิธีการทำมาหากินชีพด้วยระบบไฮเซียนดา (Haicienda System) มาประยุกต์ใช้ ความหมาย คือ ในที่ดินขนาดใหญ่แห่งหนึ่งจะมีการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ทำเหมืองแร่ และที่พักอาศัย การควบคุมกำกับดูแลงานในพื้นที่กว้างใหญ่กระจัดกระจายลักษณะนี้ จะต้องใช้คนขี่ม้าเพื่อควบคุมงาน และในที่สุดรูปแบบคนขี่ม้า (โดยเฉพาะการดูแลฝูงวัว) ได้ขยายตัวเข้าสู่กลุ่มชาวยุโรปที่มาตั้งรกรากในอเมริกาโดยผ่านขึ้นไปทางตอนใต้

Online-พกปืนในอเมริกา 5

การใช้ม้าทำงานในอเมริกา เกษตรกรใช้ม้าลากคันไถเพื่อการปลูกพืช ลากเลื่อนทำเหมืองแร่ บรรทุกของ เทียมเกวียนเดินทางคล้ายๆ กับคนไทยใช้วัว-ควาย

Advertisement

ในที่สุด คนขี่ม้าเลี้ยงวัว และควบคุมการทำงานในทุ่งกว้างในอเมริกาถูกเรียกว่า “คาวบอย” (Cowboy)

อาชีพคาวบอยยุคแรกเริ่มต้นจากรัฐทางใต้ เช่น เท็กซัส นิวเม็กซิโก แคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อนหน้านั้นมีคาวบอยชาวเม็กซิกันทำมาหากินอยู่แล้ว

ชีวิตการเดินทางเร่ร่อนไปกลางทุ่งและป่าเขาของคาวบอย เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะต้องเจอกับอะไร คาวบอยบางกลุ่มรับจ้างต้อนฝูงวัวขนาดใหญ่ไปขายในพื้นที่ห่างไกลนับร้อยไมล์ สิ่งที่คาวบอยต้องมีติดตัวเสมอคือ ปืน ที่ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัตว์ป่านานาชนิดที่ดุร้าย อีกทั้งชาวอินเดียนแดงเจ้าถิ่นที่ไม่ใคร่จะเป็นมิตร แถมพูดกันไม่รู้เรื่อง อินเดียนแดง มีหอก พกธนู พกมีดสั้น เก่งเรื่องการใช้ขวาน อเมริกันคาวบอยจึงต้องพกปืนสั้น ปืนยาวติดตัวไว้เสมอ แม้กระทั่งตอนที่คาวบอยต้องเข้าเมืองไปดื่มเหล้า ไปสังสรรค์ ไปติดต่อค้าขาย อเมริกันคาวบอยทุกคนมีสิทธิพกพาอาวุธเท่าๆ กัน

ในช่วงปี พ.ศ.2473 ฮอลลีวู้ดนำเอาวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ของคาวบอยมาสร้างเป็นหนัง พระเอกที่คนไทยคุ้นเคย เช่น จอห์น เวย์น, ชาร์ลส บรอนสัน, ลี แวนคลีฟ, คลิ้นท์ อีสต์วู้ด ซึ่งโด่งดังเป็นที่นิยมกันมากในช่วง พ.ศ.2500-2503

ในภาพยนตร์ ตัวตนของคาวบอยจะมีรูปลักษณ์ของชายชาตรีใส่หมวกปีกกว้าง ขี่ม้า พกปืน อันเป็นบุคลิกลักษณะที่สง่างามสุดเท่ ผู้คนทั้งหลายประทับใจภาพลักษณ์ของพวกคาวบอย และยังเป็นเอกลักษณ์ของคนอเมริกันยุคที่เข้าไปตั้งรกรากในดินแดนฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเมื่อร้อยกว่าปีก่อน

หนังคาวบอยส่วนมากจะสะท้อนภาพเรื่องราวของคนดีมีคุณธรรมที่มีอาชีพรับจ้างขี่ม้าต้อนฝูงวัว คนดีที่ต้องสู้กับแก๊งโจรผู้ร้าย สู้กับนายทุนคดโกง ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มาข่มเหงรังแก หรือสู้กับพวกอินเดียนแดง ประวัติศาสตร์ของอเมริกาบันทึกไว้ว่ามีคาวบอยที่โด่งดังชักปืนและลั่นกระสุนออกไปได้เร็วที่สุด 5 คน คือ ไวล์ด บิล ฮิคค็อก (Wild Bill Hickok), ด็อค ฮอลิเดย์ (Doc Holliday), จอห์น เวสลี่ย์ ฮาร์ดิน (John Wesley Hardin), ลุค ชอร์ต (Luke Short), ทอม ฮอร์น (Tom Horn) และ บิลลี่ เดอะ คิด (Billy the Kid)

ซึ่งชื่อคาวบอยในอดีตทั้ง 5 ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดัง

Online-พกปืนในอเมริกา 10

คาวบอยด้วยกันเองก็ใช่ว่าจะรักเดียวเหนียวแน่น มีการแก่งแย่ง คดโกง รังแกกันเองตามกฎธรรมชาติของมนุษย์ ในยุคบุกเบิกต้องแย่งชิงที่ดิน มีเหตุต้องขัดผลประโยชน์ ไม่รู้ใครเป็นใคร ทุกคนคือคนแปลกหน้า

เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นและกฎหมายเอื้อมไปไม่ถึง ถ้ามีความขัดแย้งเกิดขึ้น พระผู้เป็นเจ้าก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครผิดใครถูก การต่อสู้ด้วยอาวุธ คือทางออก การดวลปืน เพื่อรักษาเกียรติยศ (Affairs of Honor) และเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกผู้ชายของสังคมในยุคนั้น

พวกชาวไอริชทางตอนเหนือของเกาะอังกฤษชื่นชมการดวลปืนอยู่ก่อนแล้ว เมื่อชาวยุโรปเข้าไปอยู่ในอเมริกา ก็นำกติกาการดวลปืนของชาวไอริชเข้าไปด้วย และได้กลายเป็นข้อกฎหมายในภายหลังซึ่งประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ.2381

คนที่ร่างกฎหมายให้ดวลปืนได้ในอเมริกายุคนั้นคือ ผู้ว่าการรัฐเซาธ์ แคโรไลนา (South Carolina) ชื่อ John Lyde โดยยึดถือข้อบัญญัติการดวลปืนของชาวไอริช ที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2220 เป็นแม่บท

ประวัติศาสตร์การก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มตั้งแต่รวม 13 รัฐให้เป็นหนึ่งเดียวแล้วไปต่อสู้กับรัฐข้างเคียง ขยายอาณาเขต ซื้อดินแดนบ้าง รวมถึงการสู้รบกับอังกฤษเพื่อความเป็นเอกราช รบกับอินเดียนแดง คนอเมริกันใช้ชีวิตคลุกคลีกับปืนมาตลอด

เมื่อประชาชนอเมริกันเรียกร้องความจำเป็นต้องมีปืนติดตัวแต่กฎหมายไม่อำนวย ฉะนั้นรัฐบาลสหรัฐจึงต้องทำการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐที่เรียกว่า The Second Amendment นั้นระบุว่า “คนอเมริกันมีสิทธิที่จะมีอาวุธในครอบครอง” (Americans have the right to bear arms) ประเด็นคือคำว่า “bear arms” นั้นไม่เหมือนกับคำว่า “carry gun” ความแตกต่างในการตีความตามรัฐธรรมนูญสหรัฐที่ต้องการให้คนอเมริกัน “มีอาวุธ” หรือ “พกปืน” ในชีวิตประจำวัน

สังคมคนอเมริกันมีความผูกพันกับความเชื่อเรื่องเสรีภาพที่ทุกคนมีสิทธิครอบครองอาวุธปืน กลุ่มคนที่ต่อต้านปืนมีน้อยกว่ากลุ่มสนับสนุนสิทธิการครอบครองปืน

คำนิยามของ “สิทธิมนุษยชน” ในสหรัฐ หมายถึงประชาชนพึงมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น เลือกนับถือศาสนา ปราศจากการถูกคุกคาม และมีสิทธิในการ “มีอาวุธปืน” ไว้ในครอบครอง ซึ่งคนอเมริกันมีความพอใจเพราะถือว่ายุติธรรมและเท่าเทียมกัน

มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า คนอเมริกันสามารถซื้อหาปืนได้ง่ายๆ โดยเข้าชม “งานนิทรรศการอาวุธปืน” ซื้อบัตรผ่านประตูเข้าชมเพียง 10 เหรียญสหรัฐ มีร้านจำหน่ายอาวุธปืนนานาชนิด ราคาตั้งแต่ 100-1,000 เหรียญสหรัฐ ลูกค้าเพียงแค่แสดง “ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์” ก็สามารถซื้อปืนและกระสุนได้ นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งซื้อปืน เสื้อเกราะ และกระสุนทางอินเตอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องตอบคำถาม ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มจุกจิก ไม่ต้องตรวจสอบประวัติ ไม่ต้องบันทึกการขายปืนให้ยุ่งยาก เพราะทุกคนถือว่าการมีอาวุธปืนเป็นเรื่องจำเป็นของชีวิตและทุกคนขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ

นอกจากนี้ กฎหมายในแต่ละรัฐของอเมริกามีความเข้มงวดเรื่องปืนไม่เท่ากัน ถ้าในรัฐที่ตนอยู่มีกฎเกณฑ์เข้มงวดเรื่องปืนก็สามารถเดินทางไปซื้อจากรัฐอื่นซึ่งสะดวกกว่าได้ รัฐแคลิฟอร์เนียเข้มงวดเรื่องปืน แต่รัฐเท็กซัสออกกฎหมายอนุญาตให้ประชาชนพกพาอาวุธปืนไปได้อย่างเปิดเผย

มีคำกล่าวของคนอเมริกันว่า “ปืนไม่เคยก่อเหตุอาชญากรรม คนต่างหากที่เป็นคนก่อเหตุ”

ภาพเก่า…เล่าตำนาน ในตอนต่อไป จะเปิดเผยเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาที่รองประธานาธิบดีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐขัดใจกันอย่างรุนแรง จนกระทั่งไปท้าดวลปืนกันเพื่อพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชาย และรวมทั้งการดวลปืนอีกหลายคู่ของบุคคลระดับสูงในประวัติศาสตร์การเมืองของอเมริกา

หมายเหตุ : ผู้เขียนมิได้ส่งเสริมการใช้หรือการมีอาวุธปืนแต่อย่างใด บทความนี้ต้องการนำเสนอวิธีคิด มุมมอง กฎกติกาของสังคมอื่นๆ

เรียบเรียงโดย
พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก
ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Cowboy

AIS Logo-Online

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image