เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ตนได้เดินทางไปยังกรมสรรพากรเพื่อยื่นหนังสือถึงนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบการเสียภาษีการขายที่ดินของบิดา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าเสียภาษีตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายประสงค์ที่จะต้องตรวจและประเมินภาษีใน 15 วัน ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทที่ซื้อที่ดินลงบัญชีโดยนำค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย ซึ่งคำนวณได้ 16 ล้านบาทไปลงบัญชีด้วย กล่าวคือน่าจะเป็นการออกค่าภาษีให้ด้วยหรือไม่ จึงต้องถามว่าถ้าบริษัทผู้ซื้อลงบัญชีแล้ว ฝั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะที่เป็นผู้อนุบาลบิดาตามคำสั่งศาลได้เสียภาษีให้ครบถ้วนแล้วหรือไม่ ถ้ายังต้องเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่มรวมเป็น 18 ล้านบาทเศษ แต่จะเสียจำนวนเท่าไรขอให้เป็นอำนาจของอธิบดี
“ถ้าอธิบดีไม่ดำเนินการ ก็จะถูกดำเนินคดีเหมือนอธิบดีคนก่อนๆ ที่ไม่ยอมทำหน้าที่เก็บภาษี และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยพูดไว้เมื่อตุลาคม 2558 ว่าประชาชนมีหน้าที่ต้องเสียภาษี ไม่ใช่หลีกเลี่ยงหรือโกงภาษี ในเมื่อท่านขอร้องคนอื่น เรื่องของท่านก็ควรจะต้องชี้แจงด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีการเสียภาษีแล้ว ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์นำสำเนา ภ.ง.ด.90 มาชี้แจง หากไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องเสียเงินเพิ่มเบี้ยปรับ เพราะกฎหมายภาษีใช้กับทุกคน จะใช้มาตรา 44 มายกเว้นคงไม่ได้ และหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์จะออกมาชี้แจงเรื่องนี้ ซึ่งหากไม่เข้าใจสามารถปรึกษาผมได้ อย่างไรก็ตาม ในเร็วๆ นี้ ผมจะร้องปลดรัฐมนตรีใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์จำนวน 2 คน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด” นายเรืองไกรกล่าว
