การแข่งขันในตลาดรถเก๋งของบ้านเราตอนนี้ ถึงพริกถึงขิงอย่าบอกใครเชียว เพราะแต่ละค่ายต่างงัดทีเด็ดออกมาดึงดูดลูกค้ากันเต็มที่ โดยเฉพาะการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาในกลุ่มรถเล็ก หลังจากที่ผ่านมาอุปกรณ์ล้ำสมัยต่างๆ มักจะติดตั้งในรถหรูหรือรถขนาดใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะรถเล็กหรือแม้แต่อีโคคาร์แต่ละค่ายต่างก็ประเคนเทคโนโลยีรุ่นใหม่กันแบบไม่ยั้ง
อย่างเช่นค่ายนิสสัน หลังจากบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว นิสสัน โน้ต คอมแพคแฮตช์แบ๊ก 5 ประตู ไปเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา วางตำแหน่งสินค้าไว้เป็นรถอีโคคาร์เกรดสูงกว่า นิสสัน มาร์ช มาพร้อมเทคโนโลยีแบบล้ำๆ ภายใต้แนวคิดนวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือนิสสัน อินเทลจิเจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) คือการนำเสนอเทคโนโลยีในรถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น ทันสมัยขึ้น
เพราะเป็นครั้งแรกในรถกลุ่มอีโคคาร์ ที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ ชูความเด่นในเรื่องห้องโดยสารกว้างขวาง เป็นทีเด็ดสำหรับรถยนต์นิสสันรุ่นใหม่ๆ เอาใจผู้ที่ชอบความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะนี้กำลังเปิดรับจอง และจัดสิทธิพิเศษฉลองเปิดตัวให้ลูกค้า 2,017 คนแรก รับสิทธิพิเศษส่วนลดมูลค่า 20,000 บาททันที แต่จะพร้อมส่งมอบรถได้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป
ปัญหาก็คือ เปิดตัวไปแล้ว แต่ยังไม่มีรถส่งมอบให้ลูกค้า ถ้ามัวแต่รอ เพื่อแย่งลูกค้าไปหมดแน่นอน อย่ากระนั้นเลย จะต้องจัดกิจกรรมเพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงทีเด็ดของนิสสัน โน้ต จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาของนิสสันที่ บางนา กม.22 เพื่อให้สื่อมวลชนได้ทดสอบเทคโนโลยีล้ำสมัยใน นิสสัน โน้ต ได้แก่ ระบบอินเทลลิเจนท์ ฟอร์เวิร์ด คอลลิสัน วอร์นนิ่ง (Intelligent Forward Collision Warning-FCW) ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ เซ็นเซอร์จากกล้องด้านหน้ารถสามารถตรวจจับบุคคล และยานยนต์บริเวณหน้ารถ แล้วส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด ระบบสามารถทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 10-80 กม.ต่อ ชม.
ระบบอินเทลลิเจนท์ อีเมอร์เจนซี่ เบรกกิ้ง (Intelligent Emergency Braking หรือ Forward Emergency Braking-FEB) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ โดยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วด้วยกล้องด้านหน้า แล้วช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถ บรรเทาอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดจากการชนยานยนต์และคน ระบบจะสั่งงานให้ทำการเบรกอย่างฉับพลัน ระบบจะทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 10-80 กม.ต่อ ชม. และกรณีถ้ารถคันหน้าจอดนิ่ง ระบบจะทำงานความเร็วตั้งแต่ 10-60 กม.ต่อ ชม. และสามารถทำงานในเวลากลางคืนได้
ระบบอินเทลลิเจนท์ อราวด์ วิว มอนิเตอร์ (Intelligent Around View Monitor-AVM) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง AVM มองเห็นได้ทุกจุดรอบคัน ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหว จากกล้องรอบคัน MOD (Moving Object Detection) แสดงผลที่กระจกมองหลัง ให้ความปลอดภัยและก้าวล้ำเทียบเท่ารถยนต์ระดับหรูขนาดใหญ่ จะมีกล้องทั้งหมด 4 ตัว ใช้งานเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังและจอดนิ่ง หรือขับด้วยความเร็วไม่เกิน 8 กม.ต่อ ชม. ทำให้มองเห็นทุกจุดรอบคัน ระบบจะตรวจจับและส่งสัญญาณเตือน ช่วยป้องกันการถอยชนได้ดี
ระบบ เลน ดีพาร์ตเจอร์ วอร์นนิ่ง (Lane Departure Warning-LDW) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง ระบบจะเตือนผู้ขับขี่ ด้วยเสียงและสัญญาณไฟที่บริเวณหน้าปัดเมื่อรถออกนอกช่องทางโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะทำงานที่ความเร็วมากกว่า 70 กม.ต่อ ชม. ในอดีตเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ระบบนี้ถือเป็นของใหม่มาก สำหรับระบบความปลอดภัยของรถหรู แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ก็ถูกนำมาบรรจุอยู่ในอีโคคาร์อย่าง นิสสัน โน้ต เป็นสิ่งสะท้อนถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ นิสสัน โน้ต ใหม่ ยังมีจุดเด่น เช่น การออกแบบประตูผู้โดยสารด้านหลังเปิดได้กว้างถึง 85 องศา หรือประตูท้ายเปิดกว้าง ระดับความสูงของพื้นห้องเก็บสัมภาระ สะดวกในการเข้าออกและการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่
เครื่องยนต์เบนซิน HR12DE 3 สูบ แถวเรียง DOHC (Double Overhead Camshaft) 12 วาล์ว CVTC (Continuously Variable-valve Timing Control) ขนาด 1198 ซีซี มาพร้อมกับหัวฉีดอีเล็กทรอนิกส์ มัลติพอยท์ (ECCS) กำลังสูงสุด 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน เป็นเครื่องยนต์เดียวกับ นิสสัน มาร์ช ที่ได้รับความเชื่อถือในเรื่องสมรรถนะมาแล้ว
ส่วนระบบเกียร์ใหม่เป็นแบบ เอ็กซ์โทรนิก ซีวีที (XTRONIC CVT) มาพร้อม ดี สเตป ลอจิก (D-Step Logic) เป็นระบบที่ช่วยในเรื่องเสียงและความรู้สึกล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับกำลังเครื่องแต่อย่างใด ระบบนี้จะทำงานเมื่อเหยียบคันแรงเต็มที่แช่เอาไว้ เสียงเครื่องยนต์จะเล่นระดับไม่ดังแบบค้างเติ่ง แต่เสียงจะขึ้นลงให้อารมณ์รถสปอร์ตซิ่ง การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็น ทอร์ชัน บีม พร้อมเหล็กกันโคลง ยึดเกาะถนนได้ดี
ภายในเรียบหรู ออกแบบด้วยโทนสีดำและตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน ตกแต่งคอนโซลกลางด้วยสีเปียโนแบล๊ก เบาะผ้าสีดำตกแต่งขอบด้วยสีเบจ นั่งสบาย เบาะด้านผู้ขับขี่สามารถปรับสูง-ต่ำ ให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่แต่ละคน เบาะหลังปรับแยกแบบ 60:40 พวงมาลัยรูปทรงสปอร์ต แบบ ดี-เชป (D-Shape) ปรับสูงต่ำได้ และช่วยให้เข้าออกห้องโดยสารของคนขับได้สะดวก ขาไม่ติดพวงมาลัย และเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมระบบการทำงานของเครื่องเสียงและระบบโทรศัพท์ได้บนจากปุ่มบนพวงมาลัย
มาตรวัดเรืองแสงอัจฉริยะมัลติฟังก์ชั่น ดิสเพลย์ (MID) แสดงข้อมูลต่างๆ มีเสียงสัญญาณเตือนลืมปิดไฟหน้า ระบบเตือนเมื่อลืมกุญแจ มีปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ และกุญแจรีโมตอัจฉริยะ พร้อมระบบอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) หน้าจอ LED แบบสัมผัส ระบบเชื่อมต่อต่างรวมถึง HDMI เชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยบลูทูธ
อุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัย อาทิ โครงสร้างตัวถังนิรภัย ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า แบบ 3 จุด แบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ปรับสูง-ต่ำได้ ด้านหลังเป็นแบบ 3 จุด ครบทั้ง 3 ตำแหน่ง มีจุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX และระบบป้องกันเด็กเปิดประตูจากในรถ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ แอลอีดี ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ลดปัญหารถไหลเมื่อออกตัว
นิสสัน โน้ต ใหม่ มี 2 รุ่น ย่อย คือ 1.2V และ 1.2 VL โดยมี ราคาเริ่มต้น 568,000 บาท ในรุ่น 1.2V CVT และ 640,000 บาท สำหรับรุ่น 1.2 VL CVT มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง เรเดียน เรด สีชมพู สวีต พิงค์ สีม่วง พลัม สีขาว ไวท์ เพิร์ล สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ และสีดำ แบล๊ก สตาร์
ถือว่าเป็นอีโคคาร์ดาวรุ่ง ใส่อุปกรณ์มาแบบครบเครื่อง ไม่ไว้หน้าทั้งอีโคคาร์คู่แข่ง แถมยังหาญกล้า เล็งจะขึ้นไปต่อกรแย่งลูกค้าจากรถเก๋งเล็กอย่างกลุ่มบีเซ็กเมนต์เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรอีกต่างหาก
