เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในเวทีเสวนาสาธารณะ เรื่อง “แก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ชาตินี้หรือชาติหน้า?” ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโลภาศ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า เรื่องการปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่น หากมีสำนึก ก็ต้องแก้ไขในชาตินี้ อย่างปัญหาที่เงียบไปเรื่องจีที 200 อยู่ในขั้นตอนที่ สตง.ส่งข้อมูลให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และดีเอสไอตอบกลับมาว่า รวมรวบเอกสารส่งอัยการแล้ว ตรงนี้เราก็เดินหน้าเต็มที่ มีความคืบหน้า หรืออย่างปัญหาโรลส์-รอยซ์ เราไม่สนใจเกิดขึ้นเมื่อใด แต่จะต้องไปตรวจสอบความจริง แม้ต่างประเทศจะตอบมายังสตง. ว่า สตง. ไม่ใช่หน่วยงานหลักในการปราบทุจริต แต่ถ้า ป.ป.ช.ได้ข้อมูลว่าถือว่ารับได้ ซึ่งคดีนี้ยังไม่จบง่ายๆ ยังมีประเด็นให้ สตง.ตรวจสอบ ทั้งการทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่ ปฏิบัติละเว้นจากหน้าที่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา มีหลายคดีที่ทำประเทศชาติเสียหาย ตรงนี้ต้องได้รับผลเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับในส่วนของคดีสินบนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สตง. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล
“อยากให้ภาคประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบ และช่วยกันร้องเรียนมาเยอะๆ หากต่อสู้ชาตินี้ต้องเห็นผล เราต้องมีความหวัง แมวกำลังจับหนู จะเป็นหนูสีเทา หนูสีเขียว อะไรก็แล้วแต่ ต้องเห็นผลต้องตรวจสอบ” นายพิศิษฐ์กล่าว
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ตอนที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศใหม่ๆ โดยอ้างเพื่อขจัดคอร์รัปชั่น ประชาชนต่างยกย่อง แต่พอเข้าบริหารประเทศนานขึ้น กลายเป็นว่าตนได้ยื่นเรื่องต่างๆ ให้หน่วยงานที่ตรวจสอบมากกว่าทุกชุดรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลประกาศไว้ เพราะคนที่ก่อเหตุดันเป็นคนที่ใกล้ชิดกับผู้นำรัฐบาลเกือบทั้งหมด ดังนั้น หากต้องการปราบทุจริตคอร์รัปชั่น ต้องเริ่มที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก่อน เพราะทุกวันนี้มันสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าภาษิตโบราณที่ว่า ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง
“อย่างเรื่อง 7 คน ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา เพราะไม่ไปทำงานนั้น อยากให้พิจาณาเรื่องกฎหมาย ตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างก็เป็นงบประมาณแผ่นดิน ควรตรวจสอบอย่างจริงจัง” นายศรีสุวรรณกล่าว
