| ผู้เขียน | ดอกฝน |
|---|
เป็นวิธีการดัด เอ้ย! ลงโทษนิสัยเสียของวัยรุ่นที่นิสัยเสียไปเหยียดสีผิวเหยียดเชื้อชาติคนอื่นได้เจ๋งมากๆ
เพราะเว็บไซต์ “เดอะ การ์เดี้ยน” ได้ลงข่าวว่า ศาลแห่งรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เพิ่งสั่งลงโทษวัยรุ่น 5 คนที่พ่นกราฟฟิตี้ลงบนกำแพงโรงเรียนด้วยถ้อยคำและภาพที่เหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติ ให้ไปอ่านหนังสือ 35 เล่ม ดูภาพยนตร์ 14 เรื่อง ไปพิพิธภัณฑ์ 2 แห่ง เพื่อให้เด็กๆ กลุ่มนี้เข้าใจถึงความหลากหลายบนโลกใบนี้ และสรุปทุกอย่างที่อ่าน ดู และพบ มาส่งศาลด้วย
เรื่องทั้งหมดเกิดจากที่เด็กวัยรุ่น 5 คน ได้ไปพ่นกราฟฟิตี้ลงบนกำแพงโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับคนผิวสีในประเทศอเมริกา เพราะเป็นโรงเรียนที่เปิดเพื่อให้การศึกษาแก่เด็กๆ ผิวสีในช่วงปี 1892 ก่อนที่สงครามกลางเมืองของอเมริกาจะเกิดขึ้น โดยนอกจากจะมีความผิดฐานทำลายสาธารณสมบัติด้วยภาพไดโนเสาร์และรูปโป๊เปลือยร่วมเพศต่างๆ แล้ว เนื้อหาของสิ่งที่พวกเขาพ่นบนกำแพงนั้นยังเหยียดหยามคนอื่นด้วย เพราะนอกจากจะมีรูปเครื่องหมายสวัสดิกะของนาซีแล้ว ยังมีข้อความอย่าง พลังผิวขาว (White Power) และพลังผิวน้ำตาล (Brown Power)
Alex Rueda อัยการประจำรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นลูกสาวของบรรณารักษ์ด้วย อธิบายว่าการตัดสินดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะคิดว่าเด็กวัยรุ่นพวกนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเหยียด แต่เป็นเพราะพวกเขาไร้ความรู้ที่ถูกต้อง จึงต้องให้การศึกษาเพื่อสร้างความเข้าใจในความหลากหลายบนโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่ใช่ไปอ่านหนังสือ ไปดูหนังรางวัลออสการ์อย่าง “12 Years a Slave” และ “Lincoln” รวมถึงไปพิพิธภัณฑ์อย่าง Holocaust museum และ American history museum เฉยๆ เท่านั้น แต่ทุกคนจะต้องส่งรายงานว่าพวกเขาได้อะไรจากหนังสือ หนัง และการไปพิพิธภัณฑ์บ้าง
“พวกเขาต้องเขียนรายงานที่จะอธิบายถึงความหมายของเครื่องหมายสวัสดิกะและพลังผิวขาว หลังจากที่ไปที่ Holocaust museum และเมื่อไป American history museum ก็จะเห็นนิทรรศการเกี่ยวกับการกักขังของคนญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หวังว่าพวกเขาจะได้รับความรู้และเข้าใจความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา และปัญหาที่เกิดขึ้นจากความใจแคบมากขึ้น” Alex Rueda อธิบาย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศาลลงโทษให้ผู้กระทำความผิดไปอ่านหนังสือ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอิตาลีได้สั่งให้เด็กหญิงวัย 15 ปีที่กระทำความผิดฐานค้าประเวณีไปอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับสิทธิสตรีรวม 30 เล่ม เพื่อให้เข้าใจถึงคุณค่าในความเป็นผู้หญิงของตัวเอง อย่างไรก็ตามคู่กรณีคือชายวัย 35 ปีที่ซื้อบริการเด็กผู้หญิงคนดังกล่าวถูกตัดสินจำคุก 2 ปี แต่ Adriana Cavarero นักสิทธิสตรีชาวอิตาลีบอกว่าคงจะดีกว่า ถ้าให้ผู้ชายคนนั้นซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาได้อ่านวรรณกรรมแทน
รายชื่อหนังสือทั้ง 35 เล่มที่ศาลสั่งให้ไปอ่าน มีประเด็นสำคัญคือเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ ความเท่าเทียมทางเพศ ศาสนาและ สงคราม อาทิ The Color Purple ของ Alice Walker (เลือดสีม่วง แปลโดย อัครมุนี), The Kite Runner ของ Khaled Hosseini (เด็กเก็บว่าว แปลโดย วิษณุฉัตร วิเศษสุวรรณภูมิ), To Kill a Mockingbird ของ Harper Lee (ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด แปลโดย นาลันทา คุปต์), Exodus ของ Leon Uris (เอ็กโซดัส แปลโดย ธนิต ธรรมสุคติ), The Sun Also Rises ของ Ernest Hemingway (หัวใจโลกีย์ แปลโดย เลิศ กำแหงฤทธิรงค์), Night ของ Elie Wiesel (คืนดับ แปลโดย สายพิณ กุลกนกวรรณ ฮัมดานี), บทกวี I Know Why the Caged Bird Sings ของ Maya Angelou, The Immortal Life of Henrietta Lacks ของ Rebecca Skloot (ฮีลา เซลล์อมตะ แปลโดย นรา สุภัคโรจน์), The Rape of Nanking ของ Iris Chang (หลั่งเลือดที่นานกิง แปลโดย ฉัตรนคร องคสิงห์), Infidel ของ Ayaan Hirsi Ali (ทรยศ แปลโดย วิภาดา กิตติโกวิท), The Help ของ Kathryn Stockett (คุณนายขาว สาวใช้ดำ แปลโดย ศุภลักษณ์ สนธิชัย)
ถึงศาลไม่สั่งก็น่าลองหาอ่านดู
