ไซเบอร์ทีน…เรื่องดังๆแบบงงๆ ของ”แทรชโดฟ”ผงกหัว

คอลัมน์ ไซเบอร์ทีน

 

ยอมรับเลยว่าคุณพี่ตกข่าวเรื่อง “แทรชโดฟ” !!

มารู้ตัวอีกที ตอนที่เจ้าของสติ๊กเกอร์ออกมาขอบคุณชาวไทย สำหรับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม จนทำให้เจ้านกพิราบสีม่วง จอมผงกหัว โด่งดั่งทั่วโลกออนไลน์แบบข้ามคืนกันเลยทีเดียว

Advertisement

ตอนนี้ ความฮอตของเจ้านกผงกหัวเริ่มแผ่ขยายไปทั่วโลกกันแล้วด้วย เรียกได้ว่าประเทศไทยเรากลายเป็นผู้นำเทรนด์ไปเรียบร้อย

ว่าแล้ว ก็รีบจัดแจงหาข้อมูลของเจ้านกพิราบตัวม่วงผู้ชอบผงกหัว มาประดับรอยหยักของสมองกันเลยทีเดียว

เจ้านกพิราบผงกหัวเกิดจากฝีมือของ “ซิด ไวเลอร์” ชาวฟลอริดา สหรัฐอเมริกัน สร้างเจ้าแทรชโดฟขึ้นมา เป็นสติ๊กเกอร์ที่ใช้บนเฟซบุ๊ก ซึ่งมีท่าทางที่แตกต่างกันออกไป โดย “แทรช” (Trash) ในที่นี้ ก็หมายถึงการแกว่งไปแกว่งมา ส่วน “โดฟ” (Dove) ก็หมายถึง นกพิราบ ก็หมายถึงท่าทีของเจ้านกพิราบที่แกว่งหัวไปมา (อย่างเมามันส์) นั่นเอง

แรกเริ่มเดิมที ไวเลอร์สร้างแทรชโดฟขึ้นมาเป็นสติ๊กเกอร์ที่ขายอยู่บนระบบปฏิบัติการไอโอเอส เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน แล้วก็ได้รับความนิยมอยู่ในระดับหนึ่ง

ก่อนที่แทรชโดฟถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการบนสติ๊กเกอร์ของเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นไม่นาน แทรชโดฟก็กลายเป็นไวรัลกระจายไปทั่วโลกเฟซบุ๊กในประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ หลังจากที่เพจ สัตว์โลกอมตีน นำเจ้าสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กนกพิราบ ไปทำเป็นมิวสิกวิดีโอ จนมีคนเข้าไปดูมากถึงกว่า 3.7 ล้านวิว ภายในเวลา 5 วัน

และ ณ วันที่คุณพี่เขียนคอลัมน์นี้ ก็มีคนเข้าไปดูแล้วกว่า 4.4 ล้านวิว

ทำให้เจ้าแทรชโดฟกลายเป็นที่รู้จักของคนไทยอย่างกว้างขวาง และกลายเป็นข่าวดังทั่วไทยเลยทีเดียว มีการเอาภาพไปล้อในเรื่องต่างๆ หรือเอาไปประกอบเพลงต่างๆ แล้วปล่อยให้เจ้าแทรชโดฟผงกหัวเล่นอย่างบ้าคลั่ง

เล่นเอาคุณพี่ถึงกับมึนหัวกันเลยทีเดียว

ส่วนไวเดอร์เองก็ถึงกับตกใจ ที่เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า เจอกับข่าวเรื่องแทรชโดฟที่กำลังระบาดอย่างหนักในไทย ถึงกับต้องออกมาทำแทรชโดฟเวอร์ชั่นพิเศษ ถือธงชาติไทย พร้อมคำขอบคุณ

แต่ก็ไม่วาย มีดราม่าเบาๆ เพราะจ้าแทรชโดฟ ถือธงชาติไทย ด้วย “ขา” ของนก ทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่ตอนหลัง ไวเลอร์ก็ยอมเปลี่ยน เอาธงชาติมาให้นกคาบแทน พร้อมกับข้อความขอบคุณคนไทย ที่ทำให้แทรชโดฟกลายเป็นมุขยอดนิยมของไทย

แล้วตอนนี้ มันก็เริ่มกลายเป็นอะไรที่ฮิตกันไปทั่วโลกแล้วด้วย

ถามว่า ทำไมถึงฮิตนักหนา เรื่องนี้ ไวเดอร์เองก็คงตอบไม่ได้ เพราะโลกออนไลน์มีอะไรที่เราคิดไม่ถึงอีกมาก บทจะดัง ก็ดังขึ้นมาแบบไม่มีเหตุไม่มีผล

ไวเดอร์ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เธอเป็นคนที่ชอบการอยู่บ้าน นั่งอยู่ที่โต๊ะ แล้วก็วาดรูป เล่นวิดีโอเกม โดยเจ้าแทรชโดฟเกิดขึ้นในขณะที่เธอกำลังสเกตช์ภาพนกพิราบขณะกำลังเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน

และช่วงที่ผ่านมา หลังจากแทรชโดฟโด่งดังขึ้น เธอก็ได้รับความสนใจจากโลกภายนอกมากขึ้น ซึ่งเธอเองก็รู้สึกแปลกใจมากที่ว่า ทำไมคนบางคนถึงมีความหมายอย่างมากกับคนที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน เพียงเพราะอะไรที่ดูไม่ค่อยมีสาระบนโลกออนไลน์

คนเรา บทจะดังก็ดังกันง่ายๆ แต่อีกมุมคือ บทจะดับ ก็ดับเอาง่ายๆ เช่นกัน ว่าแล้ว ก็ “ผงกหัว” กันหน่อยจ้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image