โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐลงพื้นที่ปราศรัยแบบเดียวกันกับที่เคยทำในช่วงหาเสียง ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐในเวลานี้บริหารงานได้อย่าง “ราบรื่น” แม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลทรัมป์ ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ยืนยันจะสอบสวนกรณีความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับรัฐบาลรัสเซียก่อนหน้าการเลือกตั้ง การลาออกของไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ รวมถึงการถอนตัวของ แอนดรูว์ พุซเดอร์ ผู้ที่ทรัมป์เสนอชื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงาน
ทรัมป์ ประกาศอย่างแข็งกร้าวในการปราศรัยต่อหน้าผู้สนับสนุนหลายพันคน ยืนยันต่อชาวอเมริกันว่าตนจะทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ระหว่างหาเสียง ในการลดขนาดหน่วยงานรัฐ เสริมสร้างกำลังทหารยกเลิก และแทนที่กฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพของบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดี
“การดำเนินงานของทำเนียบขาวเป็นไปอย่างราบรื่น ราบรื่นมากๆ” ทรัมป์ระบุ ก่อนโจมตีสื่อว่า “ผมต้องการพูดโดยไม่ต้องมีสื่อที่สร้างข่าวปลอมมาแทรกกลาง” และว่า” สื่อที่ไม่ซื่อสัตย์ตีพิมพ์เรื่องเท็จหลายเรื่องโดยไม่มีแหล่งที่มา สื่อพวกนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาและเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ทุจริต”
การปราศรัยดังกล่าวนอกจากทรัมป์จะประกาศเพิ่มการจ้างงานให้มากกว่าที่เคยมีมา และแหวกข้อปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยด้วยการให้ผู้สนับสนุนขึ้นเวทีด้วยแล้ว ทรัมป์ยังประกาศที่จะกวาดล้างการก่อการร้าย โดยระบุว่า ตนได้สั่งการให้เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหม ร่างแผนในการกำจัดกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลามให้สิ้นซาก
ทั้งนี้ในวันเดียวกันมีรายงานว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ได้เตรียมแนวปฏิบัติใหม่ให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในการเพิ่มความรวดเร็วในการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศ ด้วยการเพิ่มอำนาจใจการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในการปฏิเสธคำร้องของผู้ลี้ภัยตั้งแต่ต้นกระบวนการ นับเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลสหรัฐภายใต้นโยบายของทรัมป์ ในการปิดกั้นผู้อพยพเข้าประเทศด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
