สศช.ชี้เศรษฐกิจประเทศค่อยๆฟื้น ปี 59 จีดีพีโต 3.2% คาดปีนี้โต 3-4% แต่ยังต้องจับตาปัจจัยนอกประเทศ

sdr

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 รวมถึงทั้งปี 2559 และแนวโน้มปี 2560 ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2559 ขยายตัว 3% รวมทั้งปี 2559 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3.2% ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2558 ขยายตัว 2.9%

ด้านการใช้จ่าย การส่งออกสินค้า การใช้จ่ายของรัฐบาล และการลงทุนรวมขยายตัวเร่งขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการส่งออกบริการชะลอตัว “การใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัว 2.5% จากปัจจัยบวกจากการเริ่มปรับตัวดีขึ้นของฐานรายได้ภาคเกษตร และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ” เลขาธิการ สศช.กล่าวและว่า ส่วนการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 1.5% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 2559 สอดคล้องกับมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ การลงทุนรวมขยายตัวขยายตัว 1.8% ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่ขยายตัว 8.6% จากการลงทุนของรัฐวิสาหกิจและการลงทุนของรัฐบาล อย่างไรก็ตา การลงทุนของภาคเอกชนลดลงเล็กน้อย ประมาณ 0.4% โดยการลงทุนในสิ่งก่อสร้างและการลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักรลดลง เนื่องจากการส่งออกยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และกำลังการผลิตส่วนเกินยังอยู่ในเกณฑ์สูง ส่วนความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ดี และมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพิ่มขึ้น 245.2%

ในด้านภาคต่างประเทศ การส่งออกมีมูลค่า 5.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสก่อนหน้า ในอัตราการเร่งขึ้นอย่างช้าๆ ตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักและการปรับตัวดีขึ้นของราคาสินค้าในตลาดโลก โดยกลุ่มสินค้าที่มูลค่าการส่งออกขยายตัว อาทิ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ ยางพารา เครื่องจักรและอุปกรณ์ ด้านการผลิต การผลิตสาขาเกษตร สาขาอุตสาหกรรม และสาขาการค้าส่งและค้าปลีกขยายตัวดีขึ้น ขณะที่สาขาโรงแรมและภัตตาคารชะลอตัว เนื่องจากอยู่ในบรรยากาศการไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ และการปราบทัวร์ผิดกฎหมาย

นายปรเมธี กล่าวว่า ดังนั้นในภาพรวมเศรษฐกิจทั้งปี 2559 ขยายตัว 3.2% และการขยายตัวของเศรษฐกิจเริ่มกระจายตัวไปสู่เศรษฐกิจภาคเอกชนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่การผลิตภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งปี 2559 จีดีพีอยู่ที่ 1.43 หมื่นล้านล้านบาท รายได้ต่อหัวเฉลี่ยอยู่ที่ 2.12 แสนบาทต่อคนต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ 2.03 แสนบาทต่อคนต่อปี และมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 0.2% และบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 11.4% ของจีดีพี

Advertisement

นายปรเมธี กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยปี 2560 คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มขยายตัว 3-4% ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 2559 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกที่มีความชัดเจนมากขึ้นและจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่การผลิตภาคเกษตรจะมีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้นเช่นกัน หลังจากปัญหาภัยแล้งสิ้นสุดลง และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้รายได้และการใช้จ่ายของครัวเรือนในภาคเกษตรปรับตัวดีขึ้น และการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ตามความคืบหน้าของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท และการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัว 2.9% การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 2.8% และการลงทุนรวมขยายตัว 5.3% อัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 1.2-2.2% และมีบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอยู่ที่ 9.4% ของจีดีพี โดยในส่วนการปรับอัตราดอกเบี้ยจะต้องรอดูความเหมาะสมจากปัจจัยเศรษฐกิจอีกครั้ง

นายปรเมธี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่อาจเกิดขึ้นจากทิศทางการดำเนินนโยบายของสหรัฐฯ เงื่อนไขทางการเมืองในยุโรป และการเจรจาระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (อียู) ที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากอียู (เบร็กซิท) รวมทั้งปัญหาสเถียรภาพทางเศรษฐกิจของจีน ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรีซ และความอ่อนแอของภาคการเงินในยุโรป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image