ดีเอสไอยันคุมสถานการณ์ ถึงมีปะทะเจ็บทั้งสองฝ่าย ยันพระธรรมกายล็อคจนท.สาวจริง

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ บรรยากาศที่บริเวณประตู 5 และ 6 วัดพระธรรมกาย กลุ่มศิษยานุศิษย์เริ่มมีการตื่นล้างหน้าแปลงฟัน พร้อมมีการประกาศทางเครื่องขยายเสียงปลุกให้ตื่น ก่อนมีการให้ยืดเส้นยืดสาย และสลับกันไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากภูธรภาคที่ 1 จำนวน 4 กองร้อย หรือ 600 นายยังคงตั้งแถวตรึงกำลังอยู่บริเวณปากทางเข้าคลองแอนที่มุ่งตรงไปเข้าประตู 5 และ 6

เวลา 07.30 น. ที่ บก.ตชด.ภ.1 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ และทหาร ที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณโดยรอบวัดพระธรรมกาย ได้ทยอยมารวมกำลังกันที่บริเวณอาคารกองบังคับการ ตชด.ภ.1 ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่าเบื้องต้นมีการเรียกกำลังประมาณ 16 กองร้อย โดยรอการสั่งการของผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง ก่อนลงปฏิบัติงานในพื้นที่

ต่อมาเวลา 08.00 น.มีพระวัดพระธรรมกายกว่า 5 รูป เดินนำกลุ่มผู้ชุมนุมพระกว่า 50 รูป ที่เดินตั้งแถวนำกลุ่มลูกศิษย์กว่า 200 คน เข้ามาหาเจ้าหน้าที่ตั้งแถวอยู่ปากทางคลองแอน เพื่อเจรจาให้กลุ่มศิษยานุศิษย์ที่อยู่ข้างนอกเข้ามาที่ประตู 6 แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต สร้างความไม่พอใจให้มวลชน ก่อนวิ่งกรูกันมาผลัดดันแถวเจ้าหน้าที่จนมีเหตุการปะทะชุลมุนกันกว่า 20 นาที ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนพักยกตั้งแถวดูเชิงกันห่าง 50 เมตร ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลทั้ง 2 ฝ่าย

2
พ.ต.ท. วิโรจน์ ตัดโส ผู้บังคับกองควบคุมฝูงชนที่ 1 รายงานผู้บังคับบัญชาทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า พระได้เข้ามายึดด่านคัดกรองบุคคลไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าได้ บริเวณปากทางคลองแอน โดยกลุ่มพระอ้างว่า จะออกไปรับศิษยานุศิษย์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตจึงเกิดการปะทะกัน เบื้องต้นทางศิษย์วัดบาดเจ็บเล็กน้อย 1 เป็นผู้หญิง แต่ได้ประสาน ส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิตเรียบร้อยแล้ว

Advertisement

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 08.00 น. ที่บริเวณประตู 7 วัดพระธรรมกาย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เดินทางเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่บริเวณประตู 7

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า วันนี้ยังคงมีการตรวจค้นพื้นที่ภายในวัดพระธรรมกาย และดูแลพื้นที่โดยรอบเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายเหมือนเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่มีการใช้ความรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์นาทีต่อนาที เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์จนถึงวันนี้ กลุ่มลูกศิษย์พระวัดธรรมกายได้มีการปลุกระดมมวลชนผ่านทางโซเซียลมีเดียและใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ว่าใช้ความรุนแรง เป็นการบิดเบือนข้อมูลและไม่เป็นความจริง ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้หลงเชื่อ ขอยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่ได้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาดจนทำให้วัดพระธรรมกายเติมมวลชนเข้าภายในวัด

“ส่วนกรณีที่ได้มีการเชิญพระสงฆ์ 14 รูปของวัดพระธรรมกาย เพื่อให้เข้ามารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ภายในเวลา 18.00 น.ของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้าพบแต่อย่างใด ส่วนพระที่ล็อคคอ และพยายามแย่งกล้อง เจ้าหน้าที่ผู้หญิง ของดีเอสไอนั้น พระดังกล่าวเป็นพระที่อยู่ในวัดพระธรรมกายจริง” พ.ต.ต.สุริยา กล่าว

ต่อมาเวลา 09.20 น.พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เปิดเผยภายหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างพระสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และ ตำรวจนั้น ไม่ใช่เป็นการขอยึดพื้นที่แต่เป็นเพียงการขอใช้พื้นที่ร่วมกัน เพราะมีความจำเป็นต้องเข้าออกไปทำธุระ และไปรับประทานอาหาร เนื่องจากอาหารภายในวัดมีจำนวนจำกัด ส่วนหมายเรียกที่ให้พระ 14 รูปของวัดพระธรรมกายเข้าไปรายงานตัวนั้น ตัวเองยังไม่ได้รับทราบเอกสารเห็นแต่ที่ปรากฏเป็นข่าวในโซเชียลเท่านั้น พร้อมทั้งชี้แจงว่าเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการค้นวัด พระภิกษุทุกรูปยกเว้นอาพาธหนักตามตัวไม่ได้ หรืออยู่ต่างประเทศก็ได้มาพบกับเจ้าหน้าที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องข่าวในโซเชียลที่มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า ผู้ที่ไปพบกับเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้มีการถูกกักตัวไว้ ทำให้ญาติโยมต้องขอร้องว่าอย่าเพิ่งไปพบเจ้าหน้าที่ในสถานการณ์ที่อ่อนไหวและเกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามการทำลายกำแพง เพื่อที่ต้องการเข้าไปในวัดนับเป็นความตื่นตระหนกของลูกศิษย์วัดที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่จะยึดพื้นที่วัดคืนรวมถึงมีการใช้เครื่องปล่อยสัญญาณความถี่คลื่นเสียงสูง อีกทั้งยังมีภาพเฮลิคอปเตอร์บินวนเวียนอยู่บริเวณรอบวัดตลอดเวลาทำให้ลูกศิษย์ยิ่งเกิดความตื่นตระหนกตกใจขอให้ยกเลิกมาตรา 44 พร้อมลูกศิษย์กลัวว่าจะไม่สามารถเข้ามาภายในวัดได้อีก

เวลา 09.30 น. พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ผู้แทนจากสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ก่อนทยอยเดินทางขึ้นฟ้องประชุมชั้น 2 ร่วมประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และวางแนวทางการปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ซึ่งในวันนี้นับเป็นวันที่ 5 แล้ว หลังมีประกาศจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 5/2560 เรื่องมาตรการการใช้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายโดยให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติเป็นพนักงานตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
3.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image