ผบ.ตร.ลั่น”ธรรมกาย”จบใน 7 วัน ยันกว่า 20 กองร้อยไม่ใช้อาวุธ หวั่นมือที่3 แทรก การข่าวระบุ”ธัมมชโย”อยู่ในประเทศ(คลิป)

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในปฏิบัติการจับกุม พระธัมมชโย และสถานการณ์บริเวณรอบวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนอยู่ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์จนถึง 24.00น.และได้เพิ่มกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และภาค 7 เข้าเพิ่มในพื้นที่ ณะนี้ระดมกำลังไปกว่า 20 กองร้อยแล้ว เนื่องจากทางวัดธรรมกายและเครือข่ายมีการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย ปลุกระดมเชิญชวนคนเข้ามาภายในและบริเวณวัด ในลักษณะกองทัพมด เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะมีมือที่ 3 ฉวยโอกาสสร้างความไม่สงบ จึงได้เพิ่มกำลัง จากการสืบสวนติดตามตอนนี้กลุ่มมือที่ 3 ที่ว่า ก็พยายามเข้ามาอยู่ สร้างสถานการณ์อยู่ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้อาวุธเด็ดขาด และไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ปะทะ และที่สำคัญต้องไม่ประมาท เฝ้าระวังการปะทะไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่้งเหตุที่เกิดก็ไปดูแล้วกันว่าไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ การมาของมวลชนที่พบก็เป็นการเข้ามาในพื้นที่อย่างไม่ปกติ ถามผู้สื่อข่าวที่ไปทำข่าวที่ธรรมกายดูก็ได้

ผบ.ตร. กล่าวว่า ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เป็นไปตาม มาตรา 44 เพื่อขอคืนพื้นที่ 2-3 วันแรกก็เห็นอยู่ว่าไม่มีอะไร ไม่มีการกระทบกระทั่ง เรียบร้อยดี เจ้าหน้าที่ตรวจค้นตามปกติ แต่พอมาวันสองสามวันนี้ มีการระดมคน ตนและรัฐบาลบอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าเมื่อมีหมายศาลก็ต้องเข้าไปดำเนินการ ส่วนรถน้ำ อุปกรณ์ต่างๆก็เป็นการเตรียมไว้เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดี จะได้ระงับเหตุได้ทันท่วงที

เมื่อถามถึงกรณีการปะทะเมื่อเช้าที่ผ่านมา ที่ปรากฏภาพพระสงฆ์พยายามเดินเข้าหาเจ้าหน้าที่ คล้ายพยายามยั่วยุจะต้องดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า เน้นย้ำตลอดว่าห้ามมีการปะทะ ใครเริ่มก่อน ก็ไปดูเอาแล้วกัน เราไม่เริ่มก่อนอยู่แล้ว เรื่องนี้ใครเริ่มก่อนก็แพ้ ถ้ามวลชนเข้ามารวมตัวเกิด 5 คนก็ถือว่าขัดคำสั่ง คสช. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างไม่ดี คือทำให้กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย ปกติการมีหมายค้นก็ต้องค้น แต่เมื่อถึงเวลาที่กำหนดเจ้าหน้าที่ก็ต้องกลับ แล้วนี่ปลุกระดมกันมาไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์อะไร ตอนนี้ก็ยังมีการปลุกระดมทางโซเชียลตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ หน่วยที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปดำเนินการว่าจะทำอย่างไรกับกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางโซเชียล เว็บไซต์ หรือเพจเหล่านั้น

Advertisement

เมื่อถามว่าในเมื่อพบการะดมคนเข้าพื้นที่ วัดธรรมกาย จะต้องสั่งการตำรวจสกัดการเดินทางของกลุ่มนี้หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ถ้าพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายมาเติมเต็ม มาร่วมชุมนุมก็ต้องดำเนินการอยู่แล้วแต่ย้ำว่าตำรวจยังไม่ดำเนินการขั้นเด็ดขาด ย้ำว่ายังคงเจรจาก่อน ยังไม่มีการยกระดับใดๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมตั้งข้อสังเกตว่า พระสงฆ์ภายในวัดพระธรรมกายบางส่วน ที่มีพฤติกรรมยั่วยุรุนแรง อาจไม่ใช่พระจริง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อยากให้ไปดูพระวัดอื่น ใส่หน้ากากแบบนี้หรือไม่ มีพระใส่หน้ากากออกบิณฑบาตรหรือไม่ ที่เห็นก็มีวัดนี้วัดเดียว หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพระปลอมก็ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติสงฆ์อยู่แล้ว

สำหรับกรณี ที่พระลูกวัด วัดพระธรรมกาบออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า พระธัมมชโย ออกจากวัดไปตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า คงจะมีพระลูกวัดอย่างนี้เยอะๆที่มาให้ข้อมูลลูกพี่ตัวเอง แต่ก็ขอบคุณ น่าจะบอกด้วยว่ามีหมายเลขโทรศัพท์อะไร เจ้าหน้าที่จะได้ไปตาม ส่วนการข่าวตนยังยืนยันว่าพระธัมมชโยอยู่ในประเทศไทย ส่วนจะอยู่ในวัดหรือไม่ ตอบได้แค่ว่าวัดก็อยู่ในประเทศไทย ตนขอให้พระธัมมชโยมอบตัวตั้งนานแล้ว ถ้าเข้าสู่กระบวนการทุกอย่างก็จบ มาพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะมีโอกาสได้ตัวมาดำเนินคดีหรือไม่ ฝากสื่อมวลชนไปถามด้วยถ้าเจอ อย่างไรก็ตามตอนนี้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ตำรวจเป็นเพียงผู้สนับสนุน ส่วนจะเปลี่ยนให้ตำรวจนำบัญชาการเหตุการณ์หรือไม่อยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ พล.อ.ประ
ยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่สั่งการอะไรอย่างอื่น แต่ถ้าต้องให้ตำรวจนำ ถ้ามีคำสั่งมา ตนเป็นฝ่ายปฏิบัติบัติก็ต้องน้อมรับอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการที่สถานการณ์กลับดูเพิ่มความรุนแรงขึ้นไม่ได้เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด แต่เพราะมีฝ่ายที่ยั่วยุ ส่วนเป็นแผนหรือเกมของทางวัด ที่วางได้หรือไม่นั้นก็เป็นไปได้ ส่วนแผนการณ์ที่ใช้ในการควบคุมพื้นที่ตอนนี้ไม่ขอวิจารณ์ แต่กำลังตำรวจพร้อมให้การสนับสนุนทุกอย่าง เพิ่มกำลังเมื่อร้องขอ มีการพูดคุยกับกรมสอบสวนคดีพิเศษทุกวัน วันนี้ก็จะไปติดตามเหตุการณ์ที่ตชด.ภาค 1 อีก ทั้งนี้สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ต้องใช้ความรุนแรง ใดๆ ตำรวจคนไหนมีอาวุธ แม้แต่กระบองติดไป ตั้งกรรมการสอบสวนทันที เชื่อว่าสถานการณ์นี้ต้องจบภายใน 7 วัน หมายถึงในอาทิตย์ ถึงเสาร์นี้่แหละ สักวันหนึ่ง

Advertisement

“ผมบอกไปแล้วผู้ชุมนุมที่เข้ามา มาในฐานะอะไร กฎหมายถ้าเริ่มนับหนึ่งแล้ว มันหยุดลำบาก เขาก็รู้กฎหมายอยู่แล้ว มาเกิน 5คนหรือเปล่า ขัดคำสั่งคสช.หรือไม่ มีพ.ร.บ.ชุมนุมอยู่ ไปขออนุญาตที่โรงพักมาหรือเปล่า แต่ชาวบ้านบางคนไม่รู้ ส่วนจะเสนอกระทรวงดิจิตอลฯปิดเว็บที่ปลุกระดมหรือไม่นั้น ทางดีเอสไอดูอยู่ ยอมรับว่าตำรวจไม่เชี่ยวชาญการตอบโต้ทางโซเชียล เพราะอาชีพเราคือการดูแลชีวิต ทรัพย์สินประชาชน จับคนร้าย เมื่อเทียบกับคนที่ปลุกระดม ส่วนการปรับแผนขึ้นอยู่กับดีเอสไอ ตอนนี้เฝ้าระวังมือที่ 3 เท่าที่ดูมวลชนที่ปิดหน้า พวกนี้น่าจะเป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์หมด”ผบ.ตร.

ผู้สื่อข่าวถามว่าในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ กรณีข้าวกล่องที่จัดเลี้ยงตำรวจควบคุมฝูงชน มีราคาแพงเกินจริงและหักค่าเบี้ยเลี้ยงตำรวจจำนวนมาก ผบ.ตร. กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น คนอย่างตนจะไปอมค่าข้าวลูกน้องได้อย่างไร พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวส ผบช.ภ.1 จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องการบริหารจัดการไม่มีใครไปเอาเปรียบลูกน้อง ใครไม่ได้รับความเป็นธรรมก็มีกระบวนการตรวจสอบอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image