เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดการสืบพยาน คดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี , นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง , นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดโครงการจำนำข้าว , นายมนัส แจ่มเวหา อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง , นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง และนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นจำเลยที่ 1-7 เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าว กระทั่งดำเนินการจนมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท
โดยนายนพดล หลาวทอง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้ศาลเลื่อนนัดออกไป จากเหตุที่ฝ่ายจำเลยยังไม่ได้ยื่นคำให้การคัดค้านส่งต่อศาล หลังจากที่โจทก์ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 และศาลประทับรับคำฟ้องไว้พิจารณาแล้ว โดยศาลนัดอีกครั้งในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ เวลา 13.30 น.
นายนพดลกล่าวต่อว่า สำหรับเหตุแห่งการฟ้องคดี เนื่องจากกรณีที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าว มีการดำเนินการต่อเนื่องตลอดไปจนกระทั่งมีการออกคำสั่งทางปกครองโดยกระทรวงการคลัง ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหายกับกระทรวงการคลังจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท เห็นว่าขั้นตอนปฏิบัติมีลักษณะรวบรัด เร่งรีบ เลือกปฏิบัติ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบโดยชอบธรรม ในส่วนของคำสั่งทางปกครองนั้นยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางไปแล้วด้วยเช่นกัน เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าเสียหาย และขอให้มีการทุเลาการบังคับคำสั่งนั้นไว้ก่อนด้วย โดยคดีปกครองยังอยู่ระหว่างให้คู่ความส่งคำให้การภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการไต่สวนไปเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ดังนั้นระหว่างนี้ศาลปกครองกลางจึงยังไม่มีคำสั่งใดๆ ในคดีดังกล่าว
