ชี้ ‘ไทย’ แชมป์ชาติรถติดหนักสุดโลกปี 2016 ส่วน ‘ลอสแองเจลิส’ คว้าเมืองใหญ่รถติดหนักสุด

ภาพจาก The Rakyat Post

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลสำรวจของอินริกซ์ (INRIX) บริษัทที่ให้บริการข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการจราจรและการขับรถ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเมืองเคิร์กแลนด์ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (20 ก.พ.) ชี้ว่า ในขณะที่ไทยเป็นประเทศที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดในโลกในปี 2016 สหรัฐก็เป็นประเทศที่มีปัญหาการจราจรเลวร้ายหนักสุดในหมู่กลุ่มประเทศร่ำรวยด้วยกัน โดยมี ลอสแองเจลิส เป็นเมืองใหญ่ของสหรัฐ ที่มีปัญหาการจราจรติดขัดหนักที่สุดในโลกในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน

รายงานชิ้นนี้ที่เผยผลสำรวจถึงสภาพปัญหาการจราจรในประเทศสหรัฐเป็นส่วนใหญ่ยังระบุอีกว่า การจราจรที่ติดขัดอย่างหนักได้ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ในสหรัฐต้องสูญเสียทั้งเชื้อเพลิงและเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42,000 บาท) ต่อปี

ผลการสำรวจล่าสุดนี้ของอินริกซ์ที่เป็นการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรที่ได้จากยานพาหนะและถนนหลวงต่างๆ ที่มีขนาดข้อมูลมากถึง 500 เทราไบต์  และได้จากแหล่งข้อมูลมากถึง 300 ล้านแหล่ง ยังระบุอีกว่า ผู้ขับรถในนครลอสแองเจลิสใช้เวลาในการขับรถในช่วงเวลาที่การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้าในช่วงเวลาเร่งด่วนในปี 2016 เป็นเวลาเฉลี่ยมากถึง 104 ชั่วโมง นั่นทำให้ลอสแองเจลิส เป็นเมืองใหญ่ที่ใช้เวลาในการขับรถในช่วงเวลาเร่งด่วนมากที่สุดในโลก แต่ถ้าหากเทียบวัดเป็นสัดส่วนระหว่างที่รถติดกับเวลาที่ใช้ในการขับรถทั้งหมดแล้ว คนขับรถในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ถือว่าเผชิญกับสภาพปัญหาจราจรที่เลวร้ายหนักสุด โดยใช้เวลาอยู่บนท้องถนนนานที่สุดคิดเป็น 25.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คนขับรถในนครลอสแองเจลิสใช้เวลาขับรถในช่วงการจราจรติดขัด 12.7 เปอร์เซ็นต์

ส่วนถนนที่มีการจราจรเลวร้ายที่สุดในสหรัฐ ได้แก่ ทางด่วนครอสบรองซ์ ในนครนิวยอร์ก ที่ผู้ขับขี่ต้องใช้เวลาบนถนนเส้นนี้ที่มีระยะทาง 7.5 กิโลเมตร ในการมองท้ายรถที่ติดอยู่คันข้างหน้าเฉลี่ยถึง 86 ชั่วโมงต่อปี

Advertisement

และนอกจากลอสแองเจลิส ที่เป็นเมืองใหญ่ที่มีการจราจรสาหัสที่สุดในโลกในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนแล้ว ยังมีนครนิวยอร์ก นครซานฟรานซิสโก เมืองแอตแลนตา และเมืองไมอามี ของสหรัฐที่ยังติดอยู่ใน 10 อันดับเมืองใหญ่ที่มีการจราจรติดขัดหนักสุดในโลกจากการสำรวจของอินริกซ์ครั้งนี้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image