เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย วิจารณ์ว่าการปฏิรูปช้าไป ไม่เปิดกว้าง ไร้ทิศทางทำประเทศล้าหลัง ว่า นายจาตุรนต์คงตกข่าว หรือไม่ก็รู้ แต่มุ่งจะดิสเครดิตรัฐบาล เพราเป็นคำพูดที่กระทบการปฏิรูปประเทศโดยตรง ซึ่งข้อเท็จจริงการปฏิรูปเพื่อซ่อมสร้างประเทศเดินเครื่องมา 2 ปีกว่าแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเริ่ม มีการบูรณาการของแม่น้ำ 5 สายอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอน กรอบเวลา ในการจัดทำแผนปฏิรูปและการวางกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ไปจนถึงขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ด้วยการออกกฎหมายจัดทำรัฐธรรมนูญ มีการปฏิรูปการเมือง โดยรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองมาโดยตลอด ยืนยันว่า การปฏิรูปมีทิศทางชัดเจนสู่การก้าวพ้นจากประเทศรายได้ปานกลางสู่ประเทศรายได้สูงทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าในอดีต โดยปีที่ผ่านมา ประเทศแข็งแรงขึ้นอันดับความสามารถในการแข่งขันดีขึ้นแซงเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก เศรษฐกิจเริ่มกลับมามีเสถียรภาพและขยายตัวต่อเนื่อง แต่แม้จะมีหลายด้านที่ปฏิรูปไปไกลมากแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยากและต้องแก้ไข เพราะปัญหามีมากต้องการมือเข้ามาช่วยกัน และข้อติติงชี้แนะแบบสร้างสรรค์ เพราะการปฏิรูปเป็นไปเพื่ออนาคตของทุกคน ที่ผ่านมาตนเสนอให้แยกการเมืองออกจากการปฏิรูป ปรองดองและยุทธศาสตร์ชาติ เพราะทั้ง 3 เรื่องเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนและประเทศชาติ และไม่ใช่เรื่องที่จะมาดูถูกดูแคลน ดิสเครดิตการปฏิรูปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองซึ่งไม่ยุติธรรมสำหรับคนทุกภาคส่วนที่ช่วยกันทุ่มเททำงานมากว่า 2 ปี
