พาณิชย์เตรียมใช้งบ 1.5 หมื่นล้าน สร้างตลาดชุมชนดันเศรษฐกิจท้องถิ่น

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างเป็นประธานในงาน Thailand’s Most Admired Brand 2017 จัดโดยนิตยสาร BrandAge ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ว่า ปีนี้กระทรวงได้รับอนุมัติงบประมาณ 15,000 ล้านบาท จากงบประมาณกลางเพิ่มเติมในการพัฒนากลุ่มจังหวัด สำหรับใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการใช้ตลาดเป็นตัวนำ ส่งเสริมตลาดให้เกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชน มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน มีนักท่องเที่ยวลงไปในพื้นที่ให้เกิดรายได้ ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง งบดังกล่าวจะใช้สร้างและพัฒนาตลาดในท้องถิ่นทั้งหมด 4 ประเภท คือ 1.ตลาดชุมชน ซึ่งเป็นตลาดนัด ไม่จำเป็นต้องเสริมป็นโครงสร้างตลาดเต็มรูปแบบ แต่มีการซื้อขายกันอาจจะสัปดาห์ละ 1-2 วัน 2.ตลาดต้องชม เป็นตลาดของชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในพื้นที่ เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว 3.ตลาดเอสเคิร์ฟ หรือตลาดเอกลักษณ์ ที่เน้นจับลูกค้านักเที่ยวต่างชาติขายสินค้าเฉพาะ เช่น ตลาดทุเรียนที่จะจัดตั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ กูเก็ต จับนักท่องเที่ยวจีน เป็นต้น และ 4. ตลาดกลางสินค้าเกษตรของชุมชน เป็นการลดการผูกขาดของพ่อค้าคนกลาง

“ที่ผ่านมาเราพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก แต่วันนี้เศรษฐกิจไม่เติบโตมาหลายปี จะอาศัยการส่งออกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องให้ความสำคัญกับในประเทศ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก กลไกสำคัญแรกที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก คือตลาด เพราะเมื่อรู้ว่าตลาดต้องการอะไร สินค้าที่ต้องการเป็นแบบใด ก็จะนำสู่การผลิตที่ตอบโจทย์ตลาดแล้วขายได้ ต่างจากเดิมที่ส่งเสริมแต่ผลิตอย่างเดียวแต่อาจขายไม่ได้” นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยจดทะเบียนประกอบธุรกิจ การจดเครื่องหมายการค้า จดทรัพย์สินทางปัญญา และทำการตลาดโดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อีคอมเมิร์ซ มากขึ้น เมื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในท้องถิ่นที่แข็งแรงแล้ว สินค้าขายได้ก็จะเกิดแบรนด์ตามมา แบรนด์จะเป็นรอยต่อสำคัญสร้างการจดจำ ก็จะส่งเสริมให้เกิดขึ้นมา และจะมีการเข้าไปส่งเสริมให้ไปสู่ตลาดต่างประเทศได้

“นอกจากนี้จะส่งเสริมร้านค้าชุมชนให้เข้มแข็งขึ้นใน 19,000 หมู่บ้าน นำสินค้าที่จำเป็น ชุมชนต้องใช้เข้าไปขาย โดยจะร่วมกับผู้ผลิตรายใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตสินค้าเป็นการเฉพาะ นำสินค้าไปขายในร้านค้าชุมชน ราคาต่ำกว่าตลาด 15-20% ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ใต้โครงการธงฟ้าประชารัฐ และให้องค์ความรู้บริหารจัดการแก่ร้านค้าชุมชนด้วย ขณะเดียวกันขอชักชวนบริษัทต่างๆ ในงานนี้ รวมกว่า 60 แบรนด์ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)เติบโตอยู่แล้ว มาร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ใช้โมเดลพี่จูงน้อง มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับเอสเอ็มอีเติบโตและเข้มแข็งได้”นายสนธิรัตน์กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานนี้มีแบรนด์ใหญ่ระดับประเทศร่วมมากมายมีทุกกลุ่มสินค้า เช่น ห้างค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ไอที ธนาคาร ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image