เสริมกำลังรอบ”ธรรมกาย”พบการข่าวส่อมือที่สามป่วน สแตนบายรถฉุกเฉิน60คัน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค1 พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(ผบช.ภ.1) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พร้อม ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประชุมผลการปฏิบัติเพื่อติดตามจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยใช้เวลา1 ชั่วโมงครึ่ง

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่าเรื่องตัดสัญญาณสื่อสารที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มที่อยู่ภายในวัดยุยงปลุกปั่นทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยการกล่าวเท็จ ทางอธิบดีดีเอสไอจึงประสาน กสทช.ตัดสัญญาณตั้งแต่วันนี้ บริเวณพื้นที่ที่ตัดสัญญาณขอบเขตจำกัดมีแนวทางค่อนข้างชัดเจน พื้นที่โซนA และ B ซึ่งเป็นพื้นที่ภายในวัดเลือกปฏิบัติที่จะเกิดผลกระทบกระเทือนของประชาชนให้น้อยที่สุด ทางดีเอสไอร่วมกับหน่วยงานรัฐที่ดูพื้นที่ควบคุมต้องดูความจำเป็นและเหมาะสมต้องดูเป็นวันๆว่าจะยกเลิกการตัดสัญญาณเมื่อใด แต่พยายามทำให้เสร็จสิ้นโดยไม่ให้ยืดเยื้อ ทำตามกรอบกฏหมาย จะกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ในวันนี้เป็นอย่างนั้นหรือจนกว่ามอบตัวและจับกุม สาเหตุเพราะมีการสร้างกระแสทางโลกโซเชียลเป็นเท็จไม่ถูกต้อง ส่วนบุคคลที่ทำให้เกิดความไม่ความสงบในบ้านเมือง ทางดีเอสไอได้ทำฐานข้อมูลและร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้สนับสนุน เพราะทำให้ขาดประสิทธิภาพการทำงาน

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตามที่มีสื่อลงภาพลวดหนามในทำนองไม่เหมาะสมว่า ไม่ใช่เป็นการสร้างของทางดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ทางวัดทำเพื่อกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ โดยวันนี้ทาง ดีเอสไอ นำผู้ตรวจราชการแผ่นดินรัฐสภา เข้ามาดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ก็ถูกกั้นพื้นที่ไม่ให้เข้า

รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวต่อว่า มีประชาชนในเขตควบคุมออกมาว่าเด็กออกจากบ้านไปสอบไม่ได้นั้นไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบดำเนินการกับบุคคลต้องสงสัย ส่วนเด็กไม่มีปัญหาสามารถเข้าออกไปเรียนไปสอบได้ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด ส่วนภัตตาหารของพระภิกษุที่อาศัยอยู่ในวัดให้ทางญาติโยมส่งเฉพาะอาหารแห้งและอาหารสำเร็จรูป ให้ทางประตู7จะมีเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนทำประวัติ และจะมีพระภิกษุที่อยู่ในวัดออกมารับไปส่ง ส่วนอาหารสดจะไม่อนุญาตให้นำเข้าไปอย่างเด็ดขาด สำหรับในพื้นที่มีการสับเปลี่ยนกำลังเพิ่มเติมเนื่องจากด้านการข่าวพบว่าอาจจะมีบุคคลที่สามก่อความวุ่นวาย เป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลเสริมเข้าไปภายใน

Advertisement

นายบุญฤทธิ์ เพ็ชรรักษ์ รองผู้อำนวยการ สำนักจัดระบบการแพทย์ฉุกเฉิน กล่าวว่า ทางดีเอสไอร้องขอเพื่อรองรับบุคคลภายในวัดป่วยฉุกเฉินจะได้ช่วยเหลือทันท่วงที โดยเตรียมความพร้อมทั้งอุปกรณ์ 24 ชั่วโมง โดยรับความร่วมมือจากทางภาคเอกชน ภาครัฐ ที่ผ่านการอบรมมาเตรียมไว้ โดยมี รถ 50-60 คัน จอดไว้ที่สภ.คลองหลวง หากต้องการใช้บริการเรียก 1669

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image