สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หารือกับบรรดามหาเศรษฐีในอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เรื่อง “นโยบายที่แข็งกร้าว” ในการนำตำแหน่งงานของสหรัฐกลับมาจากจีนและเม็กซิโก
นายทรัมป์ต้องการจะทำให้วาทกรรมชาตินิยมที่ช่วยให้เขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ เป็นความจริงขึ้นมาด้วยการให้สัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงวิธีการที่อเมริกาทำธุรกิจกับประเทศอื่นๆ โดยให้สัญญากับบรรดาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) จาก 20 กว่าบริษัทว่า จะมีการปฏิรูปกฎระเบียบ ปฏิรูปการเก็บภาษี และใช้นโยบายการค้าที่จะทำให้ตำแหน่งงานในภาคการผลิตกลับมาอยู่ในสหรัฐมากขึ้น
“ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปโดยอยู่บนพื้นฐานการนำตำแหน่งงานของเรากลับมา” นายทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ข่าวระบุว่า การหารือครั้งนี้ส่วนใหญ่มีคุณภาพเทียบเท่ากับการพูดคุยกันเล่นๆ ในห้องล็อกเกอร์ที่นายทรัมป์มักจะพูดเรื่องตลกแบบหาสาระไม่ค่อยได้ และยังไม่ชัดเจนว่านายทรัมป์จะทำให้คำมั่นสัญญาดังกล่าวป็นจริงได้ด้วยมาตรการหรือวิธีปฏิบัติแบบใด
วันเดียวกัน นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ประกาศถอยหลังกลับเรื่องนโยบายทางเศรษฐกิจบางอย่างที่นายทรัมป์ให้สัญญาไว้
ทั้งนี้ในระหว่างการหาเสียง นายทรัมป์ให้สัญญาว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะโต 4 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ รวมถึงจะสร้างงานเพิ่ม 25 ล้านตำแหน่งภายในทศวรรษหน้า ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ถูกมองว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ และนายทรัมป์ยังประกาศว่าจะมีมาตรการเล่นงานจีนเรื่องการแทรกแซงค่าเงินให้อ่อนกว่าความเป็นจริงเพื่อความได้เปรียบทางการค้า แต่นายมนูชินได้ถอยกลับจากคำสัญญาดังกล่าวของนายทรัมป์ โดยระบุว่า ไม่จำเป็นในการโจมตีจีนในเรื่องค่าเงิน รวมถึงประกาศว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีอัตราการเติบโตราว 3 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีหน้า
