| ที่มา | คอลัมน์ สรรหา มาเล่า |
|---|---|
| ผู้เขียน | โดย [email protected] |
| เผยแพร่ |
นับแต่ก่อตั้งมา 18 ปี สถาบันอาร์ต แอนด์ คราฟต์ แฟคทอรี หรือเรียกย่อว่า ฟาโร (FARO) ซึ่งเปิดสอนวิชาเกี่ยวกับศิลปะ และหัตถศิลป์ ตั้งอยู่แถวชานกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก ได้ช่วยกอบกู้ชีวิตผู้คนหลายพันคนที่เคยตกเป็นทาสยาเสพติด หรือข้องเกี่ยวกับอาชญากกรรม ความรุนแรง ให้กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ “คลีน” และเป็นชีวิตที่มีคุณค่า
เฟอร์นันโด ริเวร่า หนุ่มวัย 24 ปี ที่เคยติดยาเสพติด หนึ่งในผู้ได้รับชีวิตใหม่จากฟาโร ชื่อซึ่งมีความหมายถึง “ประภาคาร” ในภาษาสเปน บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี ถึงการได้พบสถาบันศิลปะและหัตถศิลป์ ซึ่งเปิดอบรมเวิร์กช็อปฟรี ในสาขาต่างๆ ทั้ง ศิลปะ หัตถกรรม ศิลปะการแสดง และวรรณกรรม ว่า “มันเหมือนคนเรือแตกที่ได้พบที่หลบภัย ชีวิตผมคงต่างไปจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิงหากไม่มีที่นี่”
เฟอร์นันโดเล่าว่า หลังจากเขาเข้ารับการรักษาตัวจากสถานบำบัดยาเสพติดออกมา เขาก็เข้าเวิร์กช็อปในหลักสูตรถ่ายภาพที่ฟาโร ทำให้เขาได้มีโอกาสเดินทางไปถ่ายรูปวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้านตามที่ต่างๆ กระทั่งทำให้เขาเกิดความสนใจและได้ตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาอยู่ระหว่างนี้
ขณะที่ เอมิเลียอาโน โลเปซ เด็กชายวัย 12 ซึ่งสนใจการถ่ายรูปตั้งแต่ 6 ขวบ และเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความรู้เรื่องการถ่ายรูปจากฟาโร บอกว่า “รูปถ่ายสามารถเป็นปากเสียงของคนเราได้ และผมก็ใช้รูปถ่ายสื่อถึงสิ่งที่ต้องการพูด”
จีซัส วิลลาสซิกา ช่างภาพมือรางวัล หนึ่งในครูที่สอนอยู่ที่ฟาโร บอกกับเอเอฟพีว่า “พวกเราอยู่ที่นี่เพื่อทำสงครามกับพวกแก๊งต่างๆ เพื่อดูสิว่า ใครจะสามารถดึงเยาวชนมาเป็นพวกได้มากกว่ากัน ศิลปะหรือยาเสพติด”
อลัม ยาเอล เบอร์นอล เล่าว่า เขายังนึกได้ถึงตอนที่ป้า “บังคับ” พาเขามาที่ฟาโรตั้งแต่เขายังเด็ก หลังจากเขาต้องอาศัยอยู่กับญาติๆ หลังจากแม่ถูกยิงตาย และพ่อเขาต้องติดคุกตั้งแต่อลัมอายุ 11 ปี
อลัมเล่าว่า เพื่อนนักเรียนรุ่นพี่ของเขาหากไม่ถูกฆ่าตาย ก็ตกงานหรือไม่ก็เข้าแก๊ง แต่อลัมในวัย 23 ปี กำลังศึกษาด้านการเมืองอยู่ที่ฟาโร โดยมีเป้าหมายอยากจบไปเป็นนักข่าวสายการเมือง สายกระบวนการยุติธรรม
“ผมมาที่นี่ โดยไม่มีความเชื่อมั่น ศรัทธาอะไรเลย แต่ที่นี่ช่วยให้ผมพบทางออกของชีวิต”
กัวดาลูเป้ วัลเลโจ หญิงวัย 39 ซึ่งพิการตั้งแต่กำเนิด ทำให้เธอพูดติดอ่าง และต้องนั่งบนรถเข็น ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ทำตามฝัน มีเพลงฮิพฮอพของตัวเอง ที่เธออาศัยห้องบันทึกเสียงที่ฟาโร ทำเพลง
ฮิพฮอพตามสไตล์ของเธอเอง ซึ่งมีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า “จงอย่าท้อถอย คุณลองมองดูสิ่งที่ฉันทำ ฉันไม่เคยหยุดสู้ คุณจะไม่มีวันล้ม หรือหากคุณล้ม คุณก็ลุกขึ้นยืนใหม่ได้”
และนั่นก็คือ หนึ่งในเนื้อเพลงที่กัวดาลูเป้ ตั้งใจอยากจะบอกแก่ทุกคน!!!
