เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อรายงานความคืบหน้าการพิจารณาคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่พนักงานอัยการ ยื่นฟ้อง นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง หรือเสี่ยโต้ง อดีต นายก อบจ.สตูล , พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และกลุ่มข้าราชการกับพลเรือน รวม 103 คน เป็นจำเลย 11 สำนวน ว่า ภายหลังที่แผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา ได้สืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ โดยให้ฝ่ายจำเลยที่ประสงค์จะยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อศาลภายใน 30 วันนับแต่คดีเสร็จการพิจารณาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีค้ามนุษย์โรฮีนจานั้น พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบรรจง หรือจง ปองพล จำเลยที่ 1 , นายปัจจุบัน หรือโกโต้ง จำเลยที่ 29 , พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยที่ 54 กับพวก เป็นข้าราชการและพลเรือน เป็นจำเลยที่ 1 – 88 คดีหมายเลขดำ คม.27 /2558 , คม.28/2558 และ คม.29/2558 ที่อัยการได้ทยอยฟ้องจำเลยตั้งแต่ เมื่อเดือน กรกฎาคม 2558 ในความผิด 16 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ พ.ศ.2551 , พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ฯ พ.ศ.2546 ภายหลังจากที่มีการโอนคดีจากศาลนาทวี มาพิจารณาคดีที่แผนกคดีค้ามนุษย์ของศาลอาญา เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา จากนั้นมีการยื่นฟ้องจำเลยอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาร่วมกระทำผิดค้ามนุษย์ที่เป็นเครือข่ายอีกในสำนวนคดีหมายเลข คม.19,32,35,36,40,41,47,63/2558
ทั้งนี้ศาลได้สืบพยานรวม 116 นัด ต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มีนาคม 2559 เดือนละ 8 วัน โดยไม่มีการเลื่อนคดีหรือยกเลิกนัด โดยโจทก์สืบพยาน 98 ปาก จำเลย 111 ปาก และพยานเอกสาร ขณะที่การสืบพยานฝ่ายจำเลยมีการร้องขอให้พิจารณาคดีลับสำหรับพยานจำเลยบางปากด้วยที่ต้องเบิกความในข้อเท็จจริง เป็นประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ ศาลอนุญาตให้มีการพิจารณาเป็นการลับโดยให้มีเพียงคู่ความ ทนายความ กับเจ้าหน้าที่ศาลอยู่ในห้องพิจารณา และมีความจำเป็นต้องตัดสัญญาณโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายทอดการพิจารณาด้วย
