เจ้าหน้าที่ “โครงการส่วนพระองค์ฯ” ตั้งมั่นสานต่อคำสอน”ในหลวงร.9″ ช่วยชาวบ้าน”ลืมหน้าอ้าปาก”

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 115 วัน ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศใช้เวลาวันหยุดสุปดาห์มาต่อแถวสักการะพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย

นายวัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ บริษัทสุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปภัมภ์ กล่าวภายหลังที่ได้เป็นเจ้าภาพร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ว่าทุกคนรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ของการก่อตั้งบริษัทสุวรรณชาด ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานแนวทางให้แก่บริษัทฯ เสมอมา และเราเองก็ได้ทำงานสนองแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาโดยตลอดพระองค์ทรงเน้นย้ำให้รับซื้อสินค้าจากชาวบ้านเป็นหลัก ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงฯแทบทั้งสิ้น แต่เนื่องด้วยในปัจจุบันมีการแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นจึงรับซื้อสินค้าทั่วไปมาจำหน่ายด้วย

“ในหลวงรัชกาลที่9 ทรงเน้นย้ำตลอดเรื่องการดำเนินกิจการของบริษัทสินค้าที่นำมาจำหน่ายนั้นถ้าเป็นพืชผักก็ต้องปลอดสารพิษ คุณภาพสินค้าต้องดี ดำเนินกิจการด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า การตั้งราคามีความยุติธรรมเหมาะสม และทุกวันนี้ส่วนตัวยังน้อมนำพระราชปณิธานของพระองค์มาเป็นหลักยึดในการทำงานด้วย คือต้องทำงานด้วยความสุจริตปฎิบัติตนให้เป็นคนดี เพื่อทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติต่อไป” นายวัลลภ กล่าว

S__30105722
นายวัลลภ เจียรวนนท์

ด้านนางสาวสมศรี ชลาภักดี รองผู้อำนวยการโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ในฐานะที่มาร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพในวันนี้ กล่าวว่า สำหรับโครงการพัฒนาส่วนพระองค์มีทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วย 1.โครงการส่วนพระองค์เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 2.โครงการส่วนพระองค์สะพานสูง กรุงเทพฯ 3.โครงการส่วนพระองค์บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และ 4.โครงการส่วนพระองค์ชุมพร ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดทำโครงการพัฒนาบนที่ดินส่วนพระองค์ ตั้งแต่ปี 2524 เพื่อหวังแก้ไขปัญหาความยากจนและปัญหาสังคมในชุมชนโดยรอบ พร้อมสร้างรูปแบบตัวอย่างชุมชนสนับสนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วย โดยปัจจุบันทั้ง 4 โครงการสามารถสร้างผลิตได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ได้ทำเพื่อหวังผลกำไร โดยทำงานควบคู่กันไปกับบริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัด

Advertisement

“ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินส่วนพระองค์มาตรวจงานทั้ง 4 โครงการอยู่เสมอ พร้อมทั้งมอบแนวทางการทำงาน โดยพระองค์จะทรงมีพระราชดำริสิ่งที่พระองค์สงสัยเกี่ยวกับการปลูกพืช ผักต่างๆ เช่น หญ้าแฝก ก็ให้ทางโครงการทดลองปลูกว่าได้ผลจริงหรือไม่ ก่อนที่จะนำความรู้เรื่องหญ้าแฝกนี้พระราชทานสู่หน่วยงานของราชการ ก่อนที่จะส่งต่อประชาชนในท้ายที่สุด ท่านทรงมีพระเมตตามากให้เราได้ทดลองทำในเรื่องต่างๆ โดยที่ไม่หวังผลตอบแทนกลับมา และให้คำนึงถึงเรื่องพอเพียงให้โครงการสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ตรงนี้จึงอยากให้ประชาชนได้ทำตามแนวคิดเรื่องการเกษตรของพระองค์ที่ทรงได้คิดค้นและศึกษามาเพื่อประชาชน” นางสาวสมศรี กล่าว

นายพิพิธ พิชัยศรทัต-นางสาวสมศรี ชลาภักดี
นายพิพิธ พิชัยศรทัต-นางสาวสมศรี ชลาภักดี

นายพิพิธ พิชัยศรทัต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัด กล่าวว่า เมื่อปีพ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อจัดตั้ง บริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัด พร้อมกับ ทรงพระราชทานชื่อ มงคลชัยพัฒนา ที่มีความหมายว่า ชัยชนะแห่งการพัฒนาอันเป็นมงคล โดยบริษัทนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ทดลอง และดำเนินงานด้านการตลาด ตลอดจนแปรรูปสินค้าเกษตรไปสู่สินค้ารูปแบบใหม่ รวมทั้งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรที่ผลิตได้จากโครงการส่วนพระองค์ โดยที่พระองค์เล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม แต่ยังไม่มีบริษัทมารองรับในส่วนนี้

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระกระแสรับสั่งกับนายกวี อังศวานน์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ และประธานคณะกรรมการ บริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัด ภายหลังเสด็จเยี่ยมศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อปี พ.ศ.2547 ว่า “เมื่อมาอยู่ที่นี่ เราต้องทำให้ชาวบ้านรอบๆศูนย์ศึกษาฯ ลืมหน้าอ้าปากได้” จากนั้นเราก็ได้น้อมนำพระกระแสรับสั่งมาดำเนินการพัฒนาอาชีพให้แก่ครอบครัวเกษตรกรที่ผ่านการดำเนินงานของบริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัดมาโดยตลอด และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่มาร่วมเป็นเจ้าภาพในพีธีสวดพระอภิธรรมศพครั้งนี้ ซึ่งตนพร้อมที่จะน้อมนำกระแสรับสั่งของพระองค์มาพัฒนางานเพื่อประชาชนต่อไป” นายพิพิธ กล่าว

นางบุญชิตา มนูชยพงษ์ อายุ 60 ปี ชาวลพบุรี เปิดเผยภายหลังเข้าถวายสักการะพระบรมศพว่ามาถวายสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งตั้งใจจะมาอย่างน้อยให้ครบ 9 ครั้ง ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นภาพพระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อพสกนิกร ไม่ย้อท้อ ทุ่มเทพระวรกายจนไม่ได้พักผ่อน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ และครอบคลุมพัฒนาเกือบทุกด้าน เช่น ด้านการเกษตร ด้านพลังงาน ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นที่ทราบกันดีว่าพระองค์ทรงสนพระทัยและทรงเชี่ยวชาญเรื่องน้ำมากเป็นพิเศษ อย่างในพื้นที่จังหวัดลพบุรี มีการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน ซึ่งการสร้างเขื่อนไม่ใช่เพียงเอื้อประโยชน์แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังเอื้อประโยชน์ถึงชาวเกษตรกร และป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่อีกด้วย นับเป็นพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถรอบด้านจริงๆ

S__8634417
นางบุญชิตา มนูชยพงษ์

ด้านวิโรจน์ คชกฤษ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หอผู้ป่วยพิเศษนราทิปประพันธ์พงษ์ รพ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี กล่าวว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับเพื่อนพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 12 คน โดยเช่ารถตู้เดินทางมากันเอง ออกเดินทางมาช่วงตี 3 มาถึงท้องสนามหลวงตี 5 และกราบสักการะพระบรมศพเสร็จช่วง 08.30 น. โดยเพิ่งจะมีโอกาสเดินทางมากันเป็นครั้งแรก รู้สึกภูมิใจและตื้นตันใจมากที่วันนี้ได้มากราบถวายบังคมพระบรมศพพระองค์ และรู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวไทยอย่างมากมาย ตนและเพื่อนๆ มีอาชีพพยาบาล ก็ตั้งใจจะปฏิบัติหน้าที่ราชการของตนเองทั้งที่ทำงานและที่บ้านให้ดีที่สุด โดยการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งนอกจากทำงานประจำแล้วก็มีอาชีพเกษตรกร โดยการทำไร่นาสวนผสม ซึ่งในจังหวัดเพชรบุรีมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในหลวงรัชการที่ 9 เยอะมาก อาทิ “โครงการช่างหัวมัน” ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ทุกอย่างให้ชาวบ้านและคนทั่วไปได้ศึกษาหาความรู้และนำความรู้กลับไปทำที่บ้านได้ ทั้งเรื่องการปรับปรุงดินในพื้นที่แห้งแล้ง การปลูกพืชผัก การเลี้ยงสัตว์ และยังมีโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีการฟื้นฟูอนุรักษ์ป่าชายเลนแหลมผักเบี้ย ทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของป่าและสัตว์น้ำ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดด้วย นับเป็นพระมหกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

S__13811810
วิโรจน์ คชกฤษ (คนที่ 4 จากด้านซ้าย) และคณะ
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image