จ่อดำเนินคดี13พระธรรมกายขัดหมายเรียก ดีเอสไอเผยหมายค้นหมดอายุ มีมาตรา44ดาบสอง

เมื่อเวลา14.10 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค1 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหมายค้นของศาลหมดอายุแล้วดีเอสไอไม่มีอำนาจค้นวัดธรรมกายว่า ขณะนี้ปฏิบัติการยังอยู่ในอำนาจตามหมายค้น หากหมายค้นหมดอายุลงเจ้าหน้าที่ยังสามารถใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายได้ แต่ที่ผ่านมาที่ดีเอสไอขอหมายค้นควบคู่กับมาตรา 44 เพื่อให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นขั้นเป็นตอน ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าเจ้าหน้าที่มีอำนาจแต่ดูเหมือนไม่ได้ใช้อำนาจนั้น ดีเอสไอขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความอดทนอดกลั้น โดยจะเริ่มจากการใช้มาตรการกดดันก่อน การจะเข้าตรวจค้นนั้นจะดำเนินการเมื่อไรก็ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีพร้อมทั้งกำลังและอำนาจของทหารตำรวจ แต่สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ยังไม่เข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายขณะนี้ เนื่องจากหากเข้าไปแล้วเกิดการปะทะจะเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมทั้ง2ฝ่าย เพราะสถานที่ตรงนั้นเป็นสถานที่ทางศาสนา จึงขอวิงวอนวัดอย่าใช้มวลชนเป็นตัวประกัน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้น ขอให้สื่อมวลชนไปกดดันฝ่ายที่ฝ่าฝืนกฎหมาย อย่ากดดันเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีมีภาพบุคคลสวมเสื้อดีเอสไอเข้ารื้อกล้องวงจรปิด และขับรถชนประตู 1 นั้นเบื้องต้น ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง โดยเห็นว่าหากเป็นเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการดังกล่าวจริงเชื่อว่าจะไม่สวมใส่เครื่องแบบ

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งเรียกพระสงฆ์14 รูป และบุคคล 7 คน ประกอบด้วย เจ้าของตลาดกลางคลองหลวง และนักการเมืองท้องถิ่น 6 ราย โดยในส่วนของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐได้เข้ารายงานตัวแล้ว ส่วนพระสงฆ์มารายงานตัวเพียงรูปเดียว คือพระมหานพพร บุญญชโย ภายหลังเหตุการณ์สงบบุคคลที่ขัดขืนคำสั่งจะต้องถูกดำเนินคดีรวมทั้งพระสงฆ์ 13 รูป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว จึงขอแจ้งเตือนไปยังผู้ฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ทุกรายด้วย พร้อมขอให้มวลชนออกมาจากวัด เจ้าหน้าที่พร้อมดูแลวัดให้ โดยเฉพาะมวลชนที่เป็นผู้หญิงและเด็ก เนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถดูแลพระได้และพระบางส่วนก็ดูแลวัดได้ จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีมวลชนอยู่ภายในวัดเพื่อดูแล นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงกำชับไม่ให้ปฏิบัติการรุนแรง โดยย้ำว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธแต่ที่ผ่านมาในการตรวจค้นกลับพบว่าอาวุธมาจากกลุ่มมวลชนโดยมีทั้งมีดและอาวุธปืน ส่วนที่องค์กรพุทธโลกทำหนังสือขอให้ยกเลิกมาตรา 44 ทางดีเอสไอทำหนังสือเสนอให้สำนักงานพุทธศาสนาเเห่งชาติทำหนังสือชี้เเจงไปยังองค์กรพุทธต่างๆในต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจว่า พศ. เห็นด้วยในการปฏิบัติงานของดีเอสไอ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image