ซิวหนุ่มบิ๊กไบค์ เปิดเฟซบุ๊ก”เจเจ ว่ะ เฮ้ย”ลวงลงทุนกำไรงาม สุดท้ายเชิดเงิน3ล้าน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่สน.ราษฎร์บูรณะ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ แถลงฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ จับกุม นายพงศกร หรือเจ ทองหญิง อายุ 25 ปี ชาวกทม. ผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน ได้ที่ จ.ขอนแก่น

อ้วน2

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เปิดเผยว่า ผู้เสียหาย 3 ราย แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ว่า ถูก นายพงศกร สมาชิกกลุ่มบิ๊กไบค์หลายกลุ่ม ชักชวนให้ร่วมลงทุนทางเฟซบุ๊กชื่อ “เจเจ ว่ะ เฮ้ย” อ้างว่า เป็นการลงทุนระยะสั้นแต่ให้ผลตอบแทนสูง เบื้องต้นมีการเรียกเก็บเงิน 5,000 บาท ก่อนจะได้เงินคืน 6,000 บาท กำไรสูงถึง 1,000 บาท ภายในระยะเวลาแค่ 3 วัน แรกๆให้ค่าตอบแทนตามที่ตกลงเอาไว้ ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนด้วยจำนวนมาก แต่ระยะหลังตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2559 ถึงปัจจุบันกลับไม่มีการโอนเงินคืนทั้งต้นและดอกเบี้ย ส่งผลให้ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย สูญเงินรวมกันไปกว่า 3 ล้านบาท

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์แล้วดำเนินการสืบสวน ทราบว่า นายพงศกร เคยก่อเหตุทำนองเดียวกันอีกหลายท้องที่ อาทิ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และ บก.ภ.จว.อุดรธานี นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีธนาคารของ นายพงศกรพบเงินเดินสะพัดเข้าออกมากถึง30ล้านบาท เชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกจำนวนมาก จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ จากการสอบสวน นายพงศกร ยังไม่ขอให้การใดๆ อ้างว่า กำลังประสานทนายความเข้ามาพบเพื่อปรึกษาก่อนให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

Advertisement

ด้าน น.ส.พรนภัส ปิยะศุภสิทธิ์ อายุ 24 ปี หนี่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาชี้ตัวนายพงศกร กล่าวว่า รู้จักนายพงศกร ผ่านทางโซเชียลมีเดียในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของวงการบิ๊กไบค์ มีคนรู้จักมากมาย ต่อมา นายพงศกร ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เจเจ เว่ย เฮ้ย” โพสต์ข้อความเชิญชวนให้ร่วมลงทุน ขั้นต่ำโอนเงิน 5,000 บาท แล้วจะได้ผลตอบแทนโอนคืนใน 3 วัน รวมทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น 6,000 บาท เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2559 จึงตัดสินใจลงทุน25,000 บาท จากนั้นได้กำไรคืนมา 5,000 จริง ในระยะเวลาประมาณ 12 วัน จึงชักชวนครอบครัว ทั้งพ่อแม่ แฟน และครอบครัวของแฟน มาร่วมลงทุนด้วย กระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2559 นายพงศกร ประกาศโปรโมชั่น หากใครร่วมลงทุน 100,000 บาทขึ้นไป จะได้ทองคำหนัก 1 บาทเป็นการตอบแทน

น.ส.พรนภัส กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นโปรโมชันล่อตาล่อใจ จึงระดมทุนรวมแล้วกว่า 1,030,000 บาท โอนไปแต่สุดท้าย นายพงศกร ปิดเฟซบุ๊กหายไป โดยอ้างว่ายุติการร่วมลงทุน จากการสอบสวน นายพงศกร ในห้องไลน์กลุ่มผู้ร่วมลงทุน ทีแรกอ้างว่า เงินที่ระดมทุนจากพรรคพวกไปนั้นนำไปลงทุนกับนายทุนเจ้าของบ่อนการพนันแห่งหนึ่งในประเทศลาว ต่อมาถูกนายทุนฉ้อโกงไป ทำให้ไม่มีเงินปันผลมาจ่ายคืนผู้ร่วมลงทุนและเป็นเหตุให้ต้องเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามตัว นายพงศกร มาดำเนินการตามกฎหมาย

ด้านพ.ต.อ.วราวัชร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของผู้ต้องหา พบว่ามีเงินเข้าออกบัญชีสูงถึง 30 ล้านบาท เบื้องต้นเชื่อว่า นายพงศกร ไม่น่าจะกระทำความผิดเพียงลำพัง แต่ต้องมีผู้ต้องหารายอื่นอยู่เบื้องหลัง หากประชาชนที่เคยตกเป็นเหยื่อโอนเงินให้นายพงศกร แล้วไม่ได้รับเงินคืน ขอให้เดินทางมาให้การกับพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่ออายัดตัวดำเนินคดีต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image