เรือนจำกลางนครราชสีมาเพิ่มศักยภาพ ตรวจ-รักษา ‘ผู้ต้องขัง’

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นพ.ชูชัย ศรชำนิ รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นกลุ่มใหญ่ที่ยังมีปัญหาเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น ทั้งๆ ที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ จากข้อมูลทะเบียนผู้ต้องขังตามที่ สปสช.ได้ประชุมร่วมกับกรมราชทัณฑ์เพื่อจัดทำระบบทะเบียนผู้ต้องขังในเรือนจำ ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2559 มีผู้ต้องขังที่มีสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จำนวน 248,002 คน คิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้ต้องขังทั้งหมด

“สปสช.ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2560-2564) ที่ให้ดำเนินงานสนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพของกลุ่มเปราะบาง โดยร่วมกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำร่องดูแลสุขภาพผู้ต้องขังในพื้นที่เขต 9 นครราชสีมา นับตั้งแต่ปี 2551 สปสช.เขต 9 นครราชสีมา ร่วมกับโรงพยาบาลเดอะโกลเดนเกท สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และเรือนจำกลางนครราชสีมา พัฒนาระบบบริการสุขภาพผู้ต้องขังและดำเนินการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน มีผู้ต้องขังในความรับผิดชอบ 3,706 คน อีกทั้งจัดแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งภายในโรงพยาบาลเดอะโกลเดนเกท เพื่อรองรับผู้ต้องขังเป็นผู้ป่วยในตามมาตรฐานห้องผู้ป่วยของกรมราชทัณฑ์ โดยมีการติดกล้องวงจรปิดแทนการใช้โซ่ตรวน” นพ.ชูชัยกล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังจัดการดูแลสุขภาพผู้ต้องขังในเชิงรุก เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคที่เป็นปัญหา อาทิ วัณโรคและเอดส์ ฯลฯ โดยจัดทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำ พร้อมกับติดตามการรักษาผู้ป่วยต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัณโรคที่มีปัญหาดื้อยา การจัดบริการงานทันตกรรม งานสุขภาพจิต และล่าสุดได้เปิดห้องเอกซเรย์ในสถานพยาบาลของเรือนจำกลางนครราชสีมา และให้บริการตรวจเอกซเรย์แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2559 เป็นต้นมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image