เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของ อภ. ในปี 2558 ได้ 13,448 ล้านบาท และปี 2559 ได้ 15,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 จำนวน 1,962 และ 3,668 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ร้อยละ 17 และ ร้อยละ 32 ตามลำดับ โดย
อภ.ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยาให้รัฐตั้งแต่ ปี 2557-2559 จำนวนเงินสะสม 3 ปี รวมทั้งสิ้น 13,702 ล้านบาท ล่าสุดในปี 2559 ประหยัดได้ 4,981 ล้านบาท สำหรับการนำส่งรายได้ให้แก่รัฐมียอดสะสม 3 ปี จำนวน 2,996 ล้านบาท
นพ.นพพร กล่าวว่า สำหรับยอดผลประกอบการ 15,154 ล้านบาท ในปี 2559 นั้น เป็นยอดกระจายยาเชิงสังคมถึง 10,374 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 69 ของผลประกอบการทั้งหมด โดยปี 2559 กระจายยาเชิงสังคมมากกว่าปี 2557 ถึง 3,114 ล้านบาท ประกอบด้วย ยากำพร้า ยาขาดแคลน ยาเชิงนโยบาย ยาที่มีมูลค่าการใช้สูง ยาในบัญชี ยาจ.2 ซึ่งเป็นยาที่มีความจำเป็นในระบบสาธารณสุขของประเทศ อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 อภ.ยังช่วยประหยัดงบประมาณจัดหายาของภาครัฐได้ถึง 4,981 ล้านบาท โดยเป็นยาในกลุ่มยาต้านไวรัสเอดส์ ที่ประหยัดได้ถึง 1,500 ล้านบาท พร้อมทั้งได้มีการสำรองยาขาดแคลน และยากำพร้ากว่า 30 รายการ เป็นยาในกลุ่มยาต้านพิษ และเซรุ่มแก้พิษงู 19 รายการ ทั้งนี้ มีผู้เข้าถึงบริการยาต้านพิษเพิ่มขึ้น จากปี 2558 จำนวน 7,000 ราย (คิดเป็นจำนวนสะสม 6 ปีกว่า 20,000 ราย) และในช่วงที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้หลายจังหวัด เมื่อปลายปี 2559 อภ.ได้จัดส่งยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กว่า 300,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
“อภ.ยังได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 13 รายการ อาทิ ยาลดความดันโลหิต (Amlodipine) ยาน้ำเสริมธาตุเหล็กในเด็ก (Ferrous fumarate) ยาน้ำขับเหล็กสำหรับเด็กผู้ที่ป่วยเป็นธาลัสซีเมีย (Deferiprone) ยาปลูกผม (Minoxidil) เป็นต้น ส่วนการจำหน่ายยาในต่างประเทศ มียอดจำหน่าย 39.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 จำนวน 10.49 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 36.51 โดยส่วนใหญ่จำหน่ายให้กับกลุ่มประเทศเออีซี ทั้งนี้ในปี 2560 ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีกกว่าร้อยละ 20 เน้นทำตลาดในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (CLMV) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เวียดนาม และพม่า” นพ.นพพร กล่าว
