เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง สารวัตรเวร สภ.เสม็ด นำตัว นายชานุ คงแสง อายุ 49 ปี และ น.ส.วรภร หรรษ์ธนา อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 50/5 หมู่ 1 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว มาสอบปากคำกรณีที่ นายชานุ และ น.ส.วรภร สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เสม็ดว่า รถกระบะทะเบียน บร 2431 จันทบุรีของตน ซึ่งจอดอยู่หน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 48/18 หมู่ 1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้หายไปช่วงเวลา 06.00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ แต่จากการสอบปากคำพบว่ามีพิรุธหลายประเด็น โดยเฉพาะเมื่อมีการแยกสอบปากคำ นายชานุ อ้างว่าภรรยาขับคนสุดท้าย เมื่อสอบปากคำ น.ส.วรภร อ้างว่าสามีเป็นคนขับรถคนสุดท้าย
เจ้าหน้าที่่ตำรวจจึงได้สอบสวน 2 คน อีกครั้ง จนให้การรับสารภาพว่าเพื่อนของน้องเขย ยืมรถกระบะไปใช้เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ แต่ไม่ยอมนำมาคืน และไม่สามารถติดตามตัวได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้มาแจ้งความว่ารถหายเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไว้ดำเนินคดีต่อไป
น.ส.วรภร หรรษ์ธนา ผู้ต้องหากล่าวว่า มีเพื่อนของน้องเขย ยืมรถกระบะไปขนของ แต่ไม่ยอมนำมาคืนไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร คิดไม่ออก จึงได้มาแจ้งความว่ารถหาย
พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง สารวัตรเวร สภ.เสม็ดกล่าวว่า การดำเนินคดีในครั้งนี้ เนื่องมาจากแจ้งข้อความอันเป็นเท็จกับพนักงานสอบสวน ในความเป็นจริง เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรควรจะบอกกับตำรวจ จะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา แต่มาแจ้งความว่ารถหาย ถือว่ามาแจ้งความไม่สุจริตใจ จึงต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย