คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 12/2560 ย้ายผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธ ศาสนาแห่งชาติ(พศ.)สะท้อนอะไร
1 สะท้อนการยืนยันคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 5/2560
ไม่จำเป็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกมายืนยัน ไม่จำเป็นที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด จะออกมาตอกย้ำ
ทุกสายตาล้วน “ประจักษ์”
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากเท่ากับสะท้อนว่าแนวทางอันมาจาก “ดีเอสไอ” เป็นแนวทางเดียวกับ”คสช.”และกับ “รัฐบาล”
เพราะคนที่เข้าไปแทนที่ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาส นาแห่งชาติ(พศ.)มาจาก “ดีเอสไอ”
มาจาก นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ
ถามว่าแนวคิดในเรื่องใช้ “มาตรา 44″ เพื่อจัดการกับ”ธรรม
กาย” มีรากงอกมาอย่างไร
เหมือนกับจะมาจาก นายไพบูลย์ นิติตะวัน
หากมองโลกตามความเป็นจริง แนวคิดในการนำเอา”มาตรา 44″ อาจอาศัยปาก นายไพบูลย์ นิติตะวัน
เหมือนกับกรณี “รถหรู”
เพราะว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน ก็เช่นเดียวกับ นายวันชัย สอนศิริ หรือ นายเสรี สุวรรณภานนท์
ทุกครั้งที่บุคคลอย่าง นายไพบูลย์ นิติตะวัน หรือ นายวันชัย สอนศิริ หรือ นายเสรี สุวรรณภานนท์ พูด จำเป็นต้องมองให้ลึก จำเป็นต้องมองให้รอบด้าน
มองลึกลงไปยัง “ข้างหลัง” มองรอบด้านไปยังบริเวณใกล้เคียง
ทั้งหมดเสมอเป็นเพียง “ปูทาง” สร้าง “เงื่อนไข”
ปูทางสร้างเงื่อนไขให้มีการสอบ “รถหรู” เมื่อเสร็จสมอา รมณ์หมายแล้วก็ “เงียบ”
“รถหรู” เป็นเช่นนี้ “มาตรา 44″เป็นเช่นนี้
ความสำเร็จจากกรณี “รถหรู” อาจสร้างความมั่นใจให้กับกรณีของ “ธรรมกาย” เมื่ออยู่ภายใต้เงาแห่ง “มาตรา 44″
เมื่อมี คำสั่งที่ 5/2560
จึงตามมาด้วย คำสั่งที่ 12/2560 เท่ากับปรับ”โครงสร้าง” ดำเนินการตระเตรียม
ตระเตรียมไปสู่การจัด “โครงสร้าง”
เพราะคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 5/2560 คือกระดานหกอันนำไปสู่คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 12/2560
คำสั่งแรกหมายถึง “เผด็จศึก”
ยึดวัดพระธรรมกายและทรัพย์สินอย่างเบ็ดเสร็จ จับตัว พระเทพญาณมหามุนี
คำสั่งหลังเป็นเครื่องมือในการ”ชำระล้าง”
ทำความสะอาด”ธรรมกาย” ปฏิรูป”พระพุทธศาสนา”