น่าน-ลาวร่วมทำแนวกันไฟ 30 กม. เห็นพ้อง 6 แนวทางรักษาสิ่งแวดล้อม 2 ประเทศ

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 เมื่อเวลา 09.00 น. นายกาน เจริญจิตรัตนกุล ผู้ใหญ่บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน พร้อมด้วยกรรมการป่าของชุมชน 62 คน ทหารพรานและทหารกองทัพบก 4 นาย ทีมงานจากมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ปิดทองหลังพระฯ 3 คน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พมพ. 2 คน ร่วมประชุมหารือและประสานความสัมพันธ์กับผู้แทนชุมชนและผู้ใหญ่บ้านฝั่งแขวงไชยบุรี สปป.ลาว ประกอบด้วย บ้านน้ำยาง 3 คน บ้านนายาง 4 คน บ้านน้ำสิบ 4 คน และบ้านน้ำคาม 2 คน หลังจากร่วมมือใช้มาตรการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ตั้งแต่ 60 วันอันตราย เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ยังไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่เลย

 

นายกานกล่าวว่า ชุมชนท้องถิ่นระหว่างประเทศได้ร่วมกิจกรรมทำแนวป้องกันไฟระหว่างประเทศไทย-ลาว ระยะทาง 30 กิโลเมตร และประเด็นพูดคุยในเวทีกลางป่าเห็นพ้องกัน 1.กรณีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของโลก แม้เป็นผืนป่าที่ดูแลโดยบ้านน้ำช้างและบ้านรอบๆ ของบ้านน้ำช้างก็ตาม แต่ก็ให้ออกซิเจนสำหรับทุกคนได้ใช้ได้สูดดมได้อย่างสบาย ดังนั้นคนต้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้ได้ใช้อย่างยาวนานต่อไป  2.การตัดไม้ระหว่างประเทศเพื่อค้าขายหรือสร้างบ้านเป็นสิ่งไม่สมควร เพราะกว่าต้นไม้ต้นหนึ่งจะเติบโตมาได้ต้องใช้เวลานาน อีกอย่างก็เป็นทรัพยากรที่ถูกแบ่งด้วยเเนวเขตที่เรียกว่าประเทศ ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลและสอดส่องด้วยกัน

201702261735341-20021028190217

Advertisement

“3.การให้ความร่วมมือทำแนวกันไฟ การดูแลรักษาเพราะมีป่าจึงมีน้ำใช้ และการมีน้ำใช้อย่างสม่ำเสมอจะนำมาซึ่งความสุขของทุกคน 4.กฎระเบียบในแต่ละประเทศและแต่บ้านมีอยู่แล้ว จึงขอให้ทุกคนเคารพและยึดถือเอาไว้ 5.ช่วยกันดูแลสอดส่องลูกบ้านเรื่องยาเสพติด มีอะไรก็แจ้งให้แก่กันรับทราบ เพราะถ้ามีคนขาย คนเสพ จะเกิดคนอีกประเภทหนึ่งขึ้นมาด้วย คือคนลักเล็กขโมยน้อย และ 6.การอยู่อย่างฉันพี่น้อง มีเล็กแบ่งกันกินกันใช้ มีเรื่องราวอะไรดีหรือไม่ดีก็เล่าสู่กันฟัง” ข้อตกลงชุมชนท้องถิ่นระหว่างประเทศระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image