น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนมกราคม 2560 มีมูลค่า 17,099 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 8.8% เทียบเดือนมกราคม 2559 แต่เมื่อหักสินค้ากลุ่มทองคำและน้ำมัน ส่งออกเป็นบวกแค่ 4.8% โดยยังเป็นส่งออกขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เพราะเกือบทุกตลาดคู่ค้าสำคัญของไทยขยายตัวได้ดี ทั้งสหรัฐ ยุโรป อาเซียน จีน และญี่ปุ่น และการขยายตัวของกลุ่มสินค้า เช่น ทองคำ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ยางพารา น้ำมันสำเร็จรูป ยานพาหนะ สินค้าเกษตรสำคัญ และสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับการนำเข้าเดือนมกราคม 2560 มีมูลค่า 16,273 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 5.17% ซึ่งเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ทำให้เดือนมกราคม 2560 ไทยได้ดุลการค้า 825 ล้านเหรียญสหรัฐ และเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 21
“การส่งออกเดือนมกราคมเป็นบวกในระดับน่าพอใจ ซึ่งการขยายตัวถือว่าปรับตัวดีเข้าสู่เกณฑ์เฉลี่ย 5 ปี หรือเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้เป้าหมายการส่งออกทั้งปีบวก 5% กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันอย่างเต็มที่ หากเศรษฐกิจประเทศหลักฟื้นตัวการส่งออกน่าจะได้เฉลี่ยเดือนละ 18,841 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยังมองว่าหากการค้าโลกเข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้ส่งออกไทยปีนี้เป็นบวกอย่างน้อย 3.5% หรือเฉลี่ยเดือนละ 18,572 ล้านเหรียญสหรัฐ”
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า ส่วนปัจจัยบวกจากราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าเกษตรขาขึ้น และเศรษฐกิจคู่ค้ามีสัญญาณดีขึ้น สำหรับปัจจัยเสี่ยง คือการเลือกตั้งภายในของประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ มีผลต่อการปรับนโยบายประเทศและการค้า ผลกระทบจากอังกฤษออกจากอียู (เบร็กซิท) และความไม่แน่นอนจากนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ คาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 35.5-37.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ราคาน้ำมันเฉลี่ย 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล